“ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ WICE ที่จะสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไปในอนาคต สำหรับเงินระดมทุนที่ได้ บริษัทจะนำไปใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยนำเงินไปใช้ลงทุนก่อสร้างคลังสินค้า ซื้อรถบรรทุกหัวลากและหางพ่วง ขยายพื้นที่ลานจอดรถบรรทุก พัฒนาระบบสารสนเทศ รองรับฐานลูกค้าและบริการที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ"นางอารยา กล่าว
สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่า 20% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 800 ล้านบาท และคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยบริษัทได้ขยายงานและการบริการจากกลุ่มฐานลูกค้าเดิม และตลาดกลุ่มลูกค้าต่างประเทศรายใหม่ไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวเลขออเดอร์การขนส่งมีแนวโน้มสูงขึ้นตาม ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน WICE เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ WICE ที่ราคา 2.10 บาท/หุ้น ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วประเทศเป็นอย่างมาก และมีการจัดสรรหุ้น IPO ให้กับนักลงทุนอย่างทั่วถึง โดยมีทั้งนักลงทุนจองหุ้นซื้อหุ้นกว่า 3,000 ราย
"การโรดโชว์หุ้น WICE ใน 6 จังหวัด ประกอบด้วย สงขลา พิษณุโลก เชียงใหม่ ชลบุรี ขอนแก่น และกรุงเทพฯ มีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก นักลงทุนในทุกจังหวัดแสดงความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ของ WICE เป็นจำนวนมาก ผู้บริหารของ WICE และบล. ฟิลลิป ได้มีการหารือร่วมกันถึงแนวทางการจัดสรรหุ้น เพื่อให้นักลงทุนได้มีโอกาสในการจองซื้อหุ้นอย่างทั่วถึง ซึ่งในที่สุดแล้วการจัดสรรหุ้น IPO ครั้งนี้ ก็สามารถดำเนินการให้บรรลุความต้องการของทุกฝ่ายได้"นายวิชา กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นสามัญ WICE จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรกในวันที่ 28 ก.ค.นี้ มั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปในการซื้อขายและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างแน่นอน เนื่องจาก WICE เป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ฐานะการเงินแข็งแกร่งมีหนี้สินต่อทุนต่ำกว่า 0.5 เท่า ธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตสูง จากแผนการให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ทั้งการนำเข้าและส่งออก โดยบริษัทสามารถให้บริการรับจัดการขนส่งทางทะเลครอบคลุมท่าเรือหลักในเขตการค้าสำคัญในประเทศต่างๆ ซึ่งตลาดหลักยังคงเป็นตลาดสหรัฐอเมริกา และ ตลาดหลักรองลงมา คือ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และจีน
นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศได้ครอบคลุมเขตการค้าสำคัญในประเทศต่างๆ ซึ่งตลาดหลักอยู่ในแถบเอเชีย เช่น ประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง จีน เป็นต้น พร้อมบริษัทยังมีบริการเสริมสำหรับลูกค้าที่ต้องการให้จัดการขนส่งสินค้ากรณีฉุกเฉิน พร้อมทั้งบริการให้คำปรึกษาในการจัดการระบบโลจิสติกส์ โดยร่วมกับลูกค้าในการคิดหาวิธีการจัดการระบบโลจิสติกส์เพื่อประหยัดต้นทุนในการขนส่ง รวมถึงการขยายคลังเก็บสินค้าภายหลังการระดมทุน
ขณะที่ราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ราคา 2.10 บาท/หุ้น มีอัตราส่วนลดประมาณ 40% ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เนื่องจากคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ประมาณ 21 เท่า คิดจากผลกำไรสุทธิของบริษัทในรอบ 4 ไตรมาสล่าสุด และเมื่อเทียบกับอัตราส่วน P/E 37 เท่าของกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ ในช่วงระยะเวลา 8 เดือน ย้อนหลัง จึงถือเป็นโอกาสของนักลงทุนที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรหุ้นตามจำนวนที่ต้องการ สามารถเข้าไปซื้อขายเพื่อการลงทุนในระยะกลาง ถึง ระยะยาวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ต่อไป