NDR ยกเลิกลงทุนโซลาร์ฟาร์ม 30 MW แต่ยังสนใจศึกษาพลังงานทดแทน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 23, 2015 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์เปิดเผยว่า บริษัทได้ยกเลิกการเข้าร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ หลังจากเข้าไปศึกษาถึงความคุ่มค่าในการลงทุนแล้วพบว่าไม่คุ้มค่าและไม่ได้ทำให้ผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังเปิดกว้างสำหรับการลงทุนในพลังงานทดแทนโครงการอื่นๆ เนื่องจากถือว่าเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและมีความมั่นคง

นอกจากนั้น บริษัทก็ยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักด้วย

"ก่อนหน้านี้เรายังไม่เคยให้ข่าวเกี่ยวกับการลงทุนโครงการพลังงานเพราะเห็นว่ายังไม่มีความคืบหน้า แต่เมื่อมีคนมาเสนอเราก็ได้ศึกษาการเข้าลงทุนในโครงการโซล่าร์ฟาร์มที่เป็นผู้มีใบอนุญาตเข้ามาเสนอให้เราเข้าไปร่วมลงทุน แต่หลังจากที่เราเข้าไปศึกษาแล้วพบว่าได้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า และมีระยะเวลาที่จะถึงจุดคุ้มทุนมากกว่าระดับปกติที่ประมาณ 6-7 ปี ทำให้เรายกเลิกโครงการนี้ไป แต่เราก็ยังเปิดกว้างหากมีโครงการที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้ม"นายชัยสิทธิ์ กล่าว

นายชัยสิทธิ์ เปิดเผยอีกว่า บริษัทยังมั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าปีก่อนที่ทำได้กว่า 40 ล้านบาท แม้ว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้อาจจะลดลงราว 1% จากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิที่ราว 6% ซึ่งเป็นผลกระทบจากการออกแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายและการรับรู้แบรนด์สินค้าในปีนี้

ขณะเดียวกันบริษัทยังมั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 10% จากปีก่อนตามเป้าหมาย แม้ว่าตลาดในประเทศจะค่อนข้างซบเซา แต่มั่นใจว่าด้วยแผนธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นจะช่วยผลักดันให้รายได้เติบโต นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

"จากการที่เรามีการทำแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขายอาจจะทำให้อัตรากำไรสุทธิปีนี่ลดลงจากปีก่อนประมาณ 1% แต่เรายังมัน่ใจว่ากำไรสุทธิปีนี่จะมากกว่าปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตตามยอดขายที่เพิ่ทขึ้น และจากเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องบริษัทจึงเน้นการขยายตลาดไปต่างประเทศมากขึ้น คาดว่าสัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 50-60% จากปีก่อนที่ 50% นอกจากนี้ในภาวะเศรษฐกิจที่มีความซบเซา เราก็ยังมุ้งเน้นกลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุน และการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก"นายชัยสิทธิ์ กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทส่งออกไปยังมาเลเซีย ลาว พม่า และฟิลิปปินส์ นอกจากนั้น ล่าสุด บริษัทได้สัญญาระยาว 3 ปี จากอินเดียที่จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/58 และทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังอยู่ระหว่างหาตลาดใหม่ๆเพิ่มเติมเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจ มุ่งเน้นตลาดในภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก คาดว่าจะเห็นลูกค้ารายใหม่เข้ามาในปี 59 ทั้งการส่งสินค้าเข้าไปจำหน่าย และการรับจ้างผลิตสินค้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ