นอกจากนี้ ยังมีรายการบิ๊กล็อตหุ้น DAII 1 รายการ จำนวน 6 แสนหุ้น มูลค่าซื้อขาย 3 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 5 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า จากการเทียบมูลค่าที่เหมาะสมกับหุ้นในกลุ่ม PROPCON และ CONMAT มีค่า PER เฉลี่ยราว 18 เท่าจะทำให้ DAII มูลค่าที่เหมาะสมราว 3.9 – 4.20 บาท โดยให้การเติบโตของรายได้เฉลี่ยราว 20% และมีประเด็นที่ต้องระวังคือมูลค่าการขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) ที่ค่อนข้างต่ำเพียง 120 ล้านบาทหรือ 30 ล้านหุ้นนั้นอาจทำให้ความผันผวนในระยะสั้นสูงจึงควรลงทุนอย่างระมัดระวัง
บมจ. ไดอิ กรุ๊ป(DAII)สามารถแบ่งออกเป็น 3 ธุรกิจย่อยได้แก่ 1) ธุรกิจผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ “FENZER" และ “NUEVO" โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นโดยมีลูกค้าหลักคือบ้านเดี่ยวและหมู่บ้านจัดสรร และคิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 43-47% 2) ธุรกิจรับสร้างบ้านโดยดำเนินธุรกิจสร้างบ้านจัดสรร ที่พักอาศัยและอาคารสำนักงานโดยใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท และเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น (ณ สิ้น 1Q15 มีงานในมือ 114 ล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 50% และ 3) ตัวแทนจำหน่ายประตูและหน้าต่างอลูมิเนียม ภายใต้ตราสินค้า ATECH โดยมีทั้งแบบสำเร็จรูปและตัดประกอบจากโรงงานคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 5%
โครงการอนาคต: 1) โรงงานผลิตบ้านสำเร็จรูปแห่งที่ 2 ที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งจะมีความทันสมัยมากกว่าโรงงานที่ 1 และสามารผลิตบ้านได้ 12 หลังต่อเดือน คาดว่าจะใช้เงินราว 25 ล้านบาทโดยนำเงินที่ได้จากการ IPO มาลงทุนและใช้คืนเจ้าหนี้ 2) โครงการสร้างโรงงานรั้วสำเร็จรูปที่จังหวัดระยองเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำตลาดในภาคตะวันออก และมีกำลังการผลิต 3.48 แสนตร.ม./ปี คาดเสร็จใน 1Q16 3) สร้างโชว์รูมที่ย่านกลางเมืองเพื่อสร้างความรู้จักกับลูกค้า