นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(RMF)ใหม่ ภายใต้ชื่อ KGHRMF มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยกองทุนมีนโยบายกระจายการลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ผ่านกองทุนหลัก คือ JP Morgan Funds – Global Healthcare Fund, Class A (acc) ซึ่งบริหารจัดการโดย เจพี มอร์แกน แอสเซ็ท แมนเนจเม้นท์ หนึ่งในผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก และเป็นกองทุนหลักกองเดียวกันกับกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน (K-GHEALTH) ที่บลจ.กสิกรไทยได้เปิดเสนอขายครั้งแรกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา และได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี จนปัจจุบันมีขนาดมูลค่าสินทรัพย์ถึง 19,619 ล้านบาท และเป็นกองทุนหุ้นกลุ่มสุขภาพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ก.ค. 2558)
กองทุนหลักดังกล่าวจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพต่างๆ อาทิ เวชภัณฑ์ เทคโนโลยีชีวภาพ บริการด้านสุขภาพ และเทคโนโลยีการแพทย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยกองทุนหลักมีทีมงานจัดการลงทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานอยู่ในธุรกิจเฮลท์แคร์ (Healthcare) และกระจายอยู่ในภูมิภาคสำคัญต่างๆ อาทิ สหรัฐฯ อังกฤษและญี่ปุ่น จึงมีความเชี่ยวชาญและสามารถเข้าถึงข้อมูลของบริษัทต่างๆ ได้อย่างเจาะลึกและแม่นยำ ทำให้กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้อย่างต่อเนื่อง
โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลังในรอบ 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 28.45% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 20.85% ต่อปี และมีผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี เฉลี่ยที่ประมาณ 32.32% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 24.12% ต่อปี (ข้อมูล ณ 30 มิ.ย. 58) นอกจากนี้กองทุนหลักยังได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์
"มูลค่าตลาดหุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ ปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 12% ของมูลค่าตลาดหุ้นโลก โดยหุ้นกลุ่มนี้ได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา หรือแม้แต่ในบางช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นโลกมีความผันผวน หุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ ยังสามารถปรับตัวเป็นบวกได้ ทั้งนี้ในระยะเวลาเฉลี่ย 10 ปี ตลาดหุ้นกลุ่มสุขภาพมีค่าความผันผวนอยู่ที่ 12% ซึ่งต่ำกว่าตลาดหุ้นโลกที่มีค่าความผันผวนอยู่ที่ 17% ดังนั้นจึงนับว่าเป็นหุ้นกลุ่มหนึ่งที่มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นและเชื่อมั่นต่อการเติบโตของหุ้นกลุ่มสุขภาพนี้ในระยะยาว"นายพงศ์พิเชษฐ์ กล่าว
ด้านนายทวี ธีระสุนทรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ในฐานะผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน เปิดเผยว่า การที่สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเป็นตัวสะท้อนอย่างดีที่กระตุ้นให้คนไทยตื่นตัวในการออมเงินเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าสู่วัยเกษียณอย่างรอบคอบ รัดกุม และเลือกลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาแ นวโน้มการใส่ใจสุขภาพเป็นเรื่องที่มาแรงมาก จะเห็นได้ว่ารายได้ของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มธุรกิจสุขภาพทั่วโลกเติบโตกว่า 82% โดยเฉพาะในประเทศเกิดใหม่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะกว่า 320% ธนาคารกสิกรไทยมองว่าการลงทุนใน RMF ในกลุ่มสุขภาพ (Global Healthcare) มีปัจจัยหนุนที่แข็งแกร่งจากสภาพสังคมที่ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ กอปรกับประเทศใหญ่ๆ หลายแห่งในโลกได้ให้ความสำคัญและส่งเสริมนโยบายสุขภาพ จึงทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้มีศักยภาพที่จะเติบโตได้สูงอย่างมีเสถียรภาพ ดังนั้น การที่ บลจ.กสิกรไทยออกกองทุน KGHRMF จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างความมั่นคงในยามเกษียณ พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี รวมถึงโปรโมชั่นคืนเงิน (Cash back) ที่ทางธนาคารกสิกรไทยได้จัดขึ้น และที่สำคัญผู้ลงทุนยังมีความสะดวกคล่องตัวในการทยอยออมสะสมผ่านช่องทางสาขาของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศได้ด้วย