(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตลาดตปท.หลังตัวเลขศก.ไม่ดี-ราคาน้ำมันลง

ทั้งนี้ วันนี้ให้ติดตามตัวเลขส่งออกงวดเดือนมิ.ย.ของไทยคาดว่าจะออกมาติดลบ ซึ่งหากเป็นจริงก็จะติดลบ 6 เดือนติดต่อกัน โดยฝ่ายวิจัย"ทิสโก้"คาดว่าจะติดลบ 4.6% ซึ่งเป็นการตอกย้ำภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีขึ้น และอาจจะไปกดดันหุ้นบ้านเราได้

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามกระแสข่าวเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพราะยังเป็นความหวังของนักลงทุน หากเกิดขึ้นจริงก็อาจเป็นข่าวดีในตลาดฯให้รีบาวน์ได้ในระยะสั้น

พร้อมให้แนวรับ 1,432 ถัดไปก็เป็น 1,410-1,412 จุด ส่วนแนวต้าน 1,453-1,455 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(24 ก.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,568.53 จุด ลดลง 163.39 จุด(-0.92%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,088.63 จุด ลดลง 57.78 จุด(-1.12%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,079.65 จุด ลดลง 22.50 จุด(-1.07%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 170.48 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 85.34 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 221.73 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 34.62 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 11.14 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.83 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 33.98 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 9.79 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(24 ก.ค.58) อยู่ที่ 1,438.08 จุด ลดลง 6.58 จุด (-0.46%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,770.99 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ก.ค.58
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(24 ก.ค.58) ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 31 เซนต์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(24 ก.ค.58)ที่ 5.36 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเช้านี้เปิด 34.88/90 แข็งค่าเล็กน้อย รอดูผลประชุมเฟดในสัปดาห์นี้
• พาณิชย์จับตาค่าเงินบาทผันผวน หวั่นกระทบแผนธุรกิจ ชี้ค่าบาทมีเสถียรภาพระดับ 33-34 บาท/ดอลลาร์ เหมาะสมช่วยหนุนส่งออก ประเมินค่าเงินอ่อนส่งผลดีต่อสินค้าเกษตรมั่นใจทั้งปีไม่ติดลบ ขณะเอกชนมองค่าเงิน ไม่ช่วยหนุนส่งออกมากนัก เพราะสาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า
• นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้สนับสนุนให้บริษัทเอกชนไทย โดยเฉพาะรายที่มีบริษัทอยู่หลายประเทศ จัดตั้งศูนย์บริหารเงิน(Treasury Center หรือ TC) เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ
• "เอไอเอส-ดีแทค" คาดประมูล 4 จี พ.ย.นี้ "แข่งเดือด" ดีแทคพร้อมชิงทั้ง 2 คลื่น หนุนความต้องการใช้งานดาต้าพุ่งสูงขึ้น เชื่อมี "รายใหม่" เข้าร่วมชิงใบอนุญาตครั้งนี้แน่ "เอไอเอส" ลั่นขอชิงทั้ง 2 คลื่นเช่นกัน ยืนยันความพร้อมมีทุกด้าน หวัง 4 จี หนุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมยุคใหม่ พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล "ธเรศ" ยันรวบเปิดประมูล 4 จี 2 คลื่น หวังให้ประชาชนใช้งานได้เร็วขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายการจัดประมูล มั่นใจรู้ผลและให้ใบอนุญาตได้ ธ.ค. คาดคนไทย ได้ใช้ 4 จี เม.ย.59
• ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่หลายฝ่ายคิด เพราะในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำในปัจจุบัน จีดีพีไทยครึ่งแรกปีนี้มีโอกาสเติบโตใกล้เคียง 3% สูงกว่าการเติบโตของจีดีพีสิงคโปร์ แต่ที่เป็นปัญหา คือ ขวัญกำลังใจของภาคเอกชนในการบริโภคและ การลงทุน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. กระทรวงการค้าของสิงคโปร์ แถลงว่า จีดีพีไตรมาส 2 หดตัว 4.6% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 4.2% และหากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนขยายตัว 1.7% ทำให้ครึ่งแรกของปีขยายตัว 2.25%
• ไอซีทีเดินหน้า 21 โครงการภายใต้กระทรวงดีอี ลั่นเริ่มเดินหน้าภายในปลายปีนี้ถึงปี 63 นายพรชัย รุจิประภา รมว.ไอซีที เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จำแนกโครงการต่างๆ ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)ที่คาดว่าจะสามารถตั้งกระทรวงได้ประมาณเดือน ก.ย.เรียบร้อยแล้ว มีจำนวน 21 โครงการ ซึ่งสอดรับกับแผนแม่บทดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปี 59-63

*หุ้นเด่นวันนี้

• SCC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 570 บาท คาดจะ Outperform ตลาดจากได้ประโยชน์โดยตรงราคาน้ำมันลดลงส่งผลบวกต่อ Spread ปิโตรเคมีเนื่องจากเป็นสายการผลิตแบบ Naphtha Base และจะรายงานงบ 2Q58 ใน 29 ก.ค.คาดกำไรโตสูง +31% yoy เป็น 1.12 หมื่นลบ.จากแรงหนุนของสเปรด HDPE และ PP ปรับตัวขึ้น มองบวก 2H58 เชื่อยอดขายปูนซีเมนต์ในประเทศเร่งตัวขึ้นจากงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ และธุรกิจปิโตรเคมียังสดใสจากราคาน้ำมันดิบที่แกว่งตัวในระดับต่ำ ผลักดันให้กำไรปี 58 เติบโต +22.9% yoy เป็น 41,322 ล้านบาท
• SAMART(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 25 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q58 ลดลง 5% q-o-q เป็น 259 ล้านบาทรับผลกระทบโครงการล่าช้า และมีค่าใช้จ่ายพิเศษที่ SAMTEL มีค่าปรับจากการไม่สามารถส่งมอบงานให้ Aerothai ได้ทัน 39 ล้านบาท คาดกำไรในรอบ 1H58 เป็นสัดส่วนเพียง 40% ของประมาณการทั้งปี เพราะคาดว่า SAMTEL จะประมูลงานได้มากขึ้นใน 2H58 เป็น 11.5 พันล้านบาท เทียบกับ 1H58 ที่เพียง 1.9 พันล้านบาท ทำให้รายได้ใน 2H58 ของ SAMTEL ดีขึ้นมากเป็น 6 พันล้านบาท (+307% h-o-h)