นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น COM7 กล่าวว่า การกำหนดราคา IPO ของ COM7 ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความน่าสนใจอย่างมาก และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยมี P/E อยู่ที่ 17.82 เท่า มีส่วนลด 39% จาก P/E กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดพาณิชย์ ของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และมีส่วนลดประมาณ 26% จาก P/E เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกับ COM7
"มั่นใจว่าหุ้น IPO ของ COM7 จะได้ร้บความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากการกำหนดราคา IPO ที่ 3.35 บาทเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความน่าสนใจอย่างมาก โดยมีส่วนลดให้กับนักลงทุน 39% จาก P/E กลุ่มหมวดบริการ และมั่นใจศักยภาพของ COM7 ในฐานะเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศที่มีจำนวนสาขามากที่สุด ครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศและมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่งในอนาคต จึงทำให้มั่นใจว่าหุ้น COM7 จะสร้างผลตอบแทนที่ดีและน่าพอใจให้กับนักลงทุนที่เข้ามาจองซื้อ"นายก้องเกียรติ กล่าว
นายก้องเกียรติ กล่าวว่า สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทยที่ปรับฐานลงในช่วงนี้เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับการซื้อขายหุ้น COM7 เพราะบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปขยายกิจการ ลดภาระหนี้ ซึ่งจะหนุนให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป สำหรับตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ดัชนีปรับตัวลดลงมา 6% เท่านั้น ถือว่ายังไม่เข้าสู่ภาวะตลาดหมีที่ปกติจะต้องปรับลงมาราว 20%
ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือนี้คงต้องติดตามเรื่องผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 ของบริษัทจดทะเบียน โดยมองว่าดัชนีจะทรงตัวได้หากไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากดดันเพิ่มเติม ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยที่ระดับ 1,400 จุด มี P/E ที่ 15 เท่า ถือว่าเป็นระดับที่พอรับได้
ทั้งนี้ COM7 ได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท โดยจะเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปประมาณ 56% เสนอขายนักลงทุนสถาบัน 21% และผู้มีอุปการคุณ 23% โดยจะเปิดให้จองซื้อในวันที่ 31 ก.ค.และ 3-4 ส.ค.58 โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายใน SET วันที่ 10 ส.ค.นี้
ด้านนายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร COM7 กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จำนวน 1,055 ล้านบาทบริษัทจะนำไปเป็นเงินทุนขยายธุรกิจจำนวน 300 ล้านบาท ชำระคืนเงินกู้ 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 205 ล้านบาทเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
บริษัทมีแผนขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 38 สาขาในปีนี้ จากปัจจุบันที่มี 317 สาขา ทำให้สิ้นปี 58 คาดว่าจะมีจำนวนสาขาร้านค้าปลีกและศูนย์บริการทั้งสิ้น 355 สาขา และมีแผนจะขยายช่องทางการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาบริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.mangoshopping.com และร้านค้าปลีกที่บริหารงานโดยบริษัทย่อย ได้แก่ mango mobile ในปี 58 มีแผนขยายสาขาร้าน mango mobile เพิ่มจำนวน 20 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก (SME หรือ SMB) ซึ่งเป็นฐานลูกค้าใหม่ที่มีการขยายตัวที่ดีในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงมีแผนรุกตลาดไปยังกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่ได้ร่วมกับพันธมิตรเปิดร้านบานาน่าไอทีในประเทศเมียนมาร์แล้ว 2 สาขา
นายสุระ คาดว่า ปีนี้บริษัทจะมีรายได้เติบโต 5% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.4 หมื่นล้านบาท จากการขยายสาขาเพิ่มและยอดขายสาขาเดิมเติบโต และบริษัทมีแผนรุกตลาดลูกค้าองค์กร เช่น บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ส่วนใหญ่มีแคมเปญแจกไอโฟนและแท็ปเล็ตกับลูกค้าที่มาจองซื้อบ้าน ซึ่งจะทำให้บริษัทเติบโตที่ดี จากที่ผ่านมามีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งติดต่อเข้ามาซื้อสินค้ากับบริษัท แต่ยังไม่ได้เริ่มเพราะยังติดขัดเรื่องเงินทุน หลังจากที่ได้เงินระดมทุนจากการขายหุ้น IPO แล้วจะทำให้สามารถให้บริการลูกค้าดังกล่าวได้
ส่วนภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงขณะนี้ ส่วนตัวไม่กังวลว่าจะกระทบกับการเข้าซื้อขายหุ้นของบริษัท เนื่องจากมองว่าบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต จากที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายและตลาดยังมีความต้องการสินค้าไอทีอย่างต่อเนื่อง