บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) ผลประกอบการของ SCC ในไตรมาสที่ 2/58 ออกมาน่าประทับใจ โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.38 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.7% YoYและ 25.3% QoQ ซึ่งสูงกว่าที่เราคาด 33.0% และสูงกว่าประมาณการเฉลี่ยของ Bloomberg 20.0% ผู้บริหารเชื่อว่าผลประกอบการในครึ่งหลังจะยังสดใสต่อเนื่อง จากส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์ที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัวของอุปสงค์ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และบรรจุภัณฑ์ ดังนั้น แนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่ง
ในขณะที่กำไรสุทธิในครึ่งแรกคิดเป็นสัดส่วนถึง 59.7% ของประมาณการปีนี้ทั้งปี จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้เอาไว้ที่ 4.18 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3.36 หมื่นล้านบาทในปี 2557 โดยให้ราคาเป้าหมายซึ่งคำนวณโดยวิธี SOTP ที่ 575 บาท
ด้านบล.ทิสโก้ แนะ"ซื้อ"หุ้น SCC ผลประกอบการใน 2Q15 ถือว่าสูงทำสถิติใหม่ และเป็นอีกครั้งที่ผลประกอบการออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดอีกครั้ง จากอัตรากำไรที่ดีกว่าคาด (จากธุรกิจเคมิคอลอีกแล้ว)
แม้ยังคาดอุปสงค์วัสดุก่อสร้างยังแย่ไปตลอดทั้งปีนี้ พร้อมให้มูลค่าที่เหมาะสม 644 บาท (EV/CE) จากธุรกิจเคมิคอลที่แข็งแกร่งอย่างมาก โดยประมาณการณ์กำไรสุทธิปี 2015 ของ SCC เท่ากับ 4.15 หมื่นล้านบาท สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.99 หมื่นล้านบาท
ส่วนบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อ"หุ้น SCC ให้ราคาพื้นฐาน 580 บาท (DCF) โดย SCC รายงานกำไรสุทธิ 2Q58 เติบโตสูงถึง 63%YoY และ 25%QoQ เป็น 13.8 พันล้านบาท (EPS : 11.56 บาทต่อหุ้น) สำหรับ 6M58 มีกำไรสุทธิ 24.9 พันล้านบาท (EPS : 20.79 บาท) เพิ่มขึ้น 48%YoY
โดยหลักมาจากกำไรในธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ที่ดีช่วยหนุน (Spread HDPE และ PP เพิ่มขึ้น 17-18%QoQ) แม้ว่ารายได้ของกลุ่มจะเพิ่มเพียง 9.5% รวมทั้งมีกำไรจากสต็อก 970 ล้านบาทด้วย กำไรของปิโตรเคมีคิดเป็น 66% ของกลุ่มใน 2Q58 สำหรับธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง รายได้ 2Q58 ลดลง 2%YoY และ 3%QoQ เพราะอุปสงค์อ่อนแอ แต่การใช้ซีเมนต์ของโครงการภาครัฐถือว่ายังไปได้ดี ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยังคงอ่อนแอ โดยรายได้และมาร์จิ้นลดลง บริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 7.50 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล 36%
สำหรับแนวโน้ม 2H58 ยังไปได้ดี โดย Spread ที่แกร่งของปิโตรเคมียังหนุน บริษัทคาดการณ์ว่าส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปี 58 เฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 10% เป็น 750 เหรียญสหรัฐ/ตัน ความต้องการใช้ซีเมนต์ใน 2H58 จะเติบโตเพิ่มเป็น 5-6%YoY เพราะฐานปีก่อนต่ำ (1H58 ทรงตัว) ทำให้ทั้งปีจะขยายตัวได้ 3%