CEN คาดกำไรสุทธิปีนี้โตตามรายได้ที่คาดโตกว่า 10% จากปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 3, 2015 09:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค (CEN) คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตตามรายได้ที่รวมที่คาดขยายตัวกว่า 10% จาก 2.2 พันล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่เป็น Holding Company ทำให้สัดส่วนรายได้ปีนี้จะมาจากบริษัทลูก ได้แก่ บมจ.เอื้อวิทยา(UWC) ราว 40% บมจ.ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ (RWI) ราว 40% และบริษัทลูกอื่นๆ อีก 20%

ปัจจุบัน CEN ถือหุ้นใน RWI จำนวน 75% และถือหุ้นใน UWC ราว 57% นอกจากนี้ ยังมีบริษัทลูกอีกหลายบริษัท ได้แก่ เช่น บริษัท เอ็นเนอซอล จำกัด เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าและพลังงานความร้อน ซึ่ง CEN ถือหุ้นราว 80% และกำลังเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ,บริษัท ไปป์ ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ถือหุ้น 99.99% ซึ่งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขุดเจาะอุโมงค์ใต้ดิน , บริษัท เอชทีพี แอนด์ เซ็น คอร์เปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้น 51% ประกอบธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งสินค้านวตกรรมไฮเทค และบริษัท ดับเบิ้ลยู เจ ซี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ถือหุ้น 94.25% ซึ่งประกอบธุรกิจงานบริการก่อสร้างงานโลหะ

"ปีนี้ UWC กำลังจะมาทั้งรายได้จากเสาส่งแรงสูงและธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะไปซื้อกิจการมาและมาปรับปรุง 2-3 เดือนก็จะรับรู้รายได้ทันที และ RWI จะดีมากได้ผลิตลวดใช้ในอินฟาสตรัคเจอร์ ของภาครัฐ ซึ่ง RWI กำลังเพิ่ม capacity กำลังลงเครื่องจักรใหม่ และเอ็นเนอซอล ผู้ผลิตไฟฟ้าโคเจนให้กับกลุ่มบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ขนาด 11 เมกะวัตต์ ซึ่งวันนี้เอสซีจีอยากจะให้เราขึ้นโรงไฟฟ้าอีก 3 โรง โรงละ 5 เมกะวัตต์ รวม 15 เมกะวัตต์ เป็นถือว่าดีมากที่เราเป็นพันธมิตรกับ SCC ที่มีไอเดียดีมากเกี่ยวกับธุรกิจพลังงาน"นายวุฒิชัย กล่าว
นายวุฒิชัย กล่าวว่า บริษัท เอ็นเนอซอล มีทุนจดทะเบียน 242 ล้านบาท รายได้ปี 57 อยู่ที่ 600-700 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 6-7% ซึ่งทำธุรกิจร่วมกับ SCC มายาวนาน และการที่เป็นพันธมิตรกันเมื่อ SCC โตบริษัทก็โตไปด้วย เป็นการเอาขยะชุมชนมาทำเป็นพลังงาน ซึ่งหากจะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ เอ็นเนอซอลต้องเพิ่มทุน ตอนนี้รอความชัดเจนซึ่งกำลังคุยกับ SCC อยู่
"CEN เป็นโฮลดิ้ง พอลูกแต่ละบริษัทเติบโตได้ CEN ก็เข้าไปจัดโครงสร้างให้ บริษัทไหนจะโตก็ เข้าตลาด พอเติบโตเองได้ก็ส่งผลดีให้ CEN ในครึ่งหลัง เชื่อว่าบริษัทลูกยังมีศักยภาพ ถ้าลูกโต ลงทุนมากขึ้น รายได้มากขึ้น กำไรมากขึ้น ก็จะส่งมาที่ CEN"นายวุฒิชัย กล่าว

นายวุฒิชัย กล่าวว่า ในส่วนของ CEN ก็มองหาธุรกิจอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยมองในธุรกิจทางด้านนวัตกรรม ในตลาดยุโรป ประเภทไฮเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ ขณะเดียวกันยังมีบริษัทลูกอีกหลายบริษัทที่รับงานเกี่ยวเนื่องกับอินฟาสตรัคเจอร์ เจาะอุโมงค์ ในส่วนของเงินลงทุนบริษัทเตรียมไว้แล้วเป็นเงินจากการใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์) หรือจะออกวอร์แรนต์ใหม่ก็ได้

"เศรษฐกิจชะลอตัวก็กระทบ ที่ผ่านมาก็กระทบแต่แค่ช่วงสั้น แต่บริษัทก็มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมได้ ทั้งด้านเสาส่งไฟฟ้าที่จะไปเชื่อมโยงกับการไฟฟ้าฯที่จะต้องใช้เสา และตามแผนพลังงานจะดีเลย์ไม่ค่อยได้ ยอมรับว่าเศรษฐกิจไม่ดีก็มีผล แต่กระทบเราน้อย"นายวุฒิชัย กล่าว

นายวุฒิชัย กล่าวว่า สำหรับ บมจ.อีเอ็มซี (EMC) ที่ปัจจุบัน CEN ถือหุ้น 5% ก็มีโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น เพราะมองว่าธุรกิจก่อสร้างยังคงเติบโตได้ อีกทั้งยังเกื้อหนุนกับธุรกิจที่กลุ่มบริษัทดำเนินการอยู่ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ