“เมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟเวอร์ 25/16" มีความโดดเด่นที่มีเงินจ่ายคืนทุกปี สูงสุดปีละ 2%* จึงช่วยสำรองเงินในการใช้จ่าย เมื่อครบอายุกรมธรรม์รับเงินครบสัญญาอีก 150%* รวมรับผลประโยชน์ตลอดสัญญาถึง 183%* ขณะเดียวกัน ยังให้ความคุ้มครองชีวิตสูงสุดถึง 150%* อีกด้วย(*เป็น % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา)
เริ่มรับประกันตั้งแต่อายุ 1เดือน-65 ปี ทุนประกันภัยเริ่มต้นตั้งแต่ 50,000 บาท และเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างครบถ้วน ผู้เอาประกันสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ โรคร้ายแรง และอุบัติเหตุแนบท้ายได้ด้วย นอกจากนี้ ผู้เอาประกันยังสามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามเกณฑ์ของกรมสรรพากร
แบบประกันนี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการออมเงินระยะยาวได้ทั้งกลุ่มที่มีรายได้ประจำและเจ้าของกิจการรายย่อยที่มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป ซึ่งต้องการทางเลือกการออมเงินอย่างมีระเบียบวินัยผ่านประกันชีวิตที่จ่ายเบี้ยประกันภัยไม่แพงและได้รับผลตอบแทนที่แน่นอนชัดเจน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดตัว “สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ สมาร์ทเฮลท์" อีกหนึ่งทางเลือกการบริหารค่าใช้จ่ายด้านความคุ้มครองสุขภาพอย่างครอบคลุม ให้ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลแบบจัดเต็ม สูงสุดถึง 5,000,000 บาท**ต่อปี ทำได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 70 ปี และสามารถต่ออายุได้จนถึงอายุ 85 ปี
ภายใต้ความคุ้มครองดังกล่าว ประกอบด้วย ค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยใน ซึ่งเหมารวมค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาล สูงสุดถึง 10,000 บาท**ต่อวัน ซึ่งจะได้รับเพิ่มเป็น 2 เท่า เมื่อเข้าพักรักษาตัวในห้องไอ.ซี.ยู. และรับค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องหลังออกจากโรงพยาบาล สูงสุดถึง 5,000 บาท**ต่อครั้ง นอกจากนี้ ยังคุ้มครองค่าล้างไต เคมีบำบัด และค่าฉายแสง สูงสุดถึง 180,000 บาท**ต่อปี ทั้งยังครอบคลุมค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน ค่าผ่าตัด และค่ารังสีบำบัด รวมถึงกรณีค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ ก็ยังได้รับความคุ้มครองสูงถึง 30,000 บาท**ต่อครั้ง (** สำหรับแผนความคุ้มครอง 5) ยิ่งกว่านั้น กรณีเสียชีวิตก็ยังได้รับเงินช่วยเหลืออีก 10,000 บาทอีกด้วย
“เมืองไทยประกันชีวิตมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าในระดับเซ็กเมนต์ย่อย และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ตลอดจนการพัฒนาในมิติต่างๆ เช่น บริการ สิทธิประโยชน์เพื่อลูกค้า ภายใต้นโยบายหลัก “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง" (Customer Centricity) ที่เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญมาตลอด" นายสาระ กล่าว