(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซต์เวย์ถึงดีดขึ้น หลังราคาน้ำมันฟื้นช่วงสั้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 5, 2015 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯคาดดัชนีหุ้นไทยเช้านี้จะแกว่งตัวไซต์เวย์ ถึงมีโอกาสดีดตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัด หลังราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นระยะสั้น อาจจะช่วยหนุนการลงทุนกลุ่มพลังงาน แต่เชื่อว่าการดีดตัวขึ้นของดัชนีอาจจะไม่ยั่งยืนนัก หลังยังมีปัจจัยลบกดดันจากความกังวลหลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ นอกจากนี้ยังต้องจับตาการประชุมของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการปรับเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ ซึงมีแนวโน้มที่จะปรับเป้าหมายการส่งออกลง ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันนี้ คาดว่าจะไม่สร้างความประหลาดใจใหั้กับตลาดซึ่งน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% โดยคาดว่าดัชนีจะมีแนวรับบริเวณ 1,428 และ 1,422 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,440-1,442 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้จะเคลื่อนไหวไซต์เวย์ อาจดีดกลับขึ้นได้ตามราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานดีดกลับ แต่เชื่อว่าดัชนีจะขยับขึ้นไม่ได้มากนัก เพราะตลาดยังกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) หลังล่าสุดประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ออกมาระบุว่าเศรษฐกิจของสหรัฐมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ

ขณะที่ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา เป็นสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่มีสิทธิโหวต ทำให้การออกมาระบุดังกล่าวนับว่ามีน้ำหนัก ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตร(bond yield)ปรับตัวขึ้น และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

นอกจากนี้ยังต้องติดตามการปรับเป้าหมายตัวเลขการส่งออกของไทยในปีนี้ โดยคาดว่ากระทารวงพาณิชย์จะปรับลดเป้าหมายการส่งออกในปีนี้เหลือไม่เติบโต หรือติดลบเล็กน้อย จากเป้าเดิมที่คาดเติบโต 1.2% ในปีนี้ หลังในช่วงครึ่งแรกปีนี้ตัวเลขส่งออกของไทยติดลบ 4.84% ส่วนการประชุมกนง.ในวันนี้ คาดว่าจะไม่มีประเด็นที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด โดยคาดว่ากนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยายที่ระดับ 1.5% ต่อไป

พร้อมมองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแนวรับบรเวณ 1,428 และ 1,422 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,440-1,1442

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(4 ส.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,550.69 จุด ลดลง 47.51 จุด(-0.27%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,105.55 จุด ลดลง 9.83 จุด(-0.19%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,093.32 จุด ลดลง 4.72 จุด(-0.22%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 30.21 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 10.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 5.92 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 0.77 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 11.87 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.20 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 ส.ค.58) อยู่ที่ 1,432.16 จุด ลดลง 9.88 จุด (-0.69%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,057.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ส.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(4 ส.ค.58) ปิดที่ 45.74 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 57 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(4 ส.ค.58)ที่ 5.93 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเช้านี้เปิด 35.12 อ่อนค่า หลังเฟดส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ย-คาดกนง.วันนี้คงดบ.
  • "ฉัตรชัย" นัดประชุมผู้บริหารพาณิชย์วันนี้ เตรียมพิจารณาเป้าหมายส่งออกใหม่ จ่อปรับลดเหลือ 0% จากเป้าเดิม 1.2% มั่นใจมาตรการที่จะดำเนินการ ทำส่งออกครึ่งปีหลังกลับมาเป็นบวกได้ หลังผ่าน 6 เดือนส่งออกยังติดลบ 4.84% รับปากติดตามการประชุมบอร์ดการค้าระหว่างประเทศ หลังตั้งไปแล้ว ยังเงียบ
  • นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า สำนักงบฯ อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างการใช้จ่ายในหมวดงบกลางประจำปี 2558 ที่มีอยู่ 8 หมื่นล้านบาท จากส่วนที่ใช้เพื่อการลงทุนประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ให้เป็นงบรายจ่ายประจำ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เพื่อแก้ปัญหาภัยพิบัติ ไม่ว่า ภัยแล้ง น้ำท่วม ภัยธรรมชาติอื่นๆ ที่จะเข้ามาในช่วง 2 เดือนหลังจากนี้ เพื่อให้การใช้จ่ายได้เร็วขึ้น
  • ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ของบลูมเบิร์ก ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบ 13 ปี นำโดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (ดับเบิ้ลยูทีไอ) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4% เป็น 45.80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในการซื้อขาย 10.36 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลอนดอน หลังลงไปมากถึง 4.3% ในวันที่ 3 ส.ค.
  • "คมนาคม-รฟม."จ่อเสนอครม.ขอปรับรูปแบบลงทุนเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย จาก PPP-Gross Cost (จ้างเดินรถและซ่อมบำรุง) เป็น PPP-Net Cost (สัมปทาน) และใช้พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56 แทน พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35 เดินหน้า เจรจาตรง BMCL หลังบอร์ดสภาพัฒน์สั่งเปิดประมูล ด้านบอร์ดรฟม.ยันเดินรถต่อเนื่องประชาชนสะดวก
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานยอดเงินฝากของสถาบันรับฝากเงินรวมตั๋วแลกเงินทั้งระบบ ล่าสุด ณ สิ้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า มียอดเงินฝากรวม 16.77 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 6.2% แต่ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่มียอดเงินฝากทั้งระบบรวม 16.85 ล้านล้านบาท หรือลดลง 7.8 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 6.5% สะท้อนว่าระดับเงินฝากในระบบมีอัตราการเพิ่มที่เริ่มลดลง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ASEFA บมจ.อาซีฟา เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ด้านบล.เคเคเทรด ประเมินมูลค่าเหมาะสม 4.50 บาท/หุ้น จากราคาขาย IPO 3.70 บาท/หุ้น

"อาซีฟา"และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/58 มีกำไรสุทธิ 29.52 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27.93 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.08 บาท

บริษัทฯเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสวิตช์บอร์ดไฟฟ้า ที่ออกแบบและพัฒนาโดยบริษัทฯ ภายใต้เครื่องหมายการค้า "Asefa" ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการออกแบบ และอุปกรณ์ภายในได้ตามความต้องการของลูกค้า

  • ITD(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“เก็งกำไร"เป้า 12 บาท คาดจะ Outperform ตลาดในวันนี้ จากกำหนดการลงนามในสัญญา SPV ระหว่างเอกชน–รัฐบาล 3 ฝ่าย ไทย–ญี่ปุ่น–พม่า เพื่อพัฒนาโครงการทวาย ในบ่ายวันนี้ ที่กรุงเนปิดอร์ ประเทศพม่า พร้อมคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างใน 2H58 จากการประมูลงานขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ และเชื่อว่า ITD เป็นตัวเต็งที่จะได้งานสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดประมูลงานใน 4Q58 นี้
  • IRPC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 5 บาท กำไรดีกว่าคาด IRPC เป็นหนึ่งใน “หุ้นกำไรโตดี๊ดี" ที่เราออกบทวิเคราะห์เมื่อ 17 ก.ค. และไม่ทำให้ผิดหวัง กำไรสุทธิ 2Q15 +11% Q-Q, +2,277% Y-Y และงวด 1H15 ทำได้ 8 พันล้านบาท +1,446% Y-Y จาก Spread ของธุรกิจปิโตรเคมีที่ดีขึ้นทั้งสายอะโรเมติกส์ โอเลฟินส์ และสไตรีนิกส์ ชดเชยธุรกิจปิโตรเลียมที่แย่ลงตามค่าการกลั่นที่ลดลง และได้แรงหนุนจากกำไรจากสต็อก และกำไรพิเศษจากการกลับค่าเผื่อการลดลงของราคาสินค้าคงเหลือ และได้เงินประกันไฟไหม้ แต่กำไร 2H15 จะชะลอเพราะค่าการกลั่นลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก อาจมีขาดทุนจากสต็อก ธุรกิจปิโตรฯที่ยังดีแต่ชดเชยได้ไม่หมด โดยโครงการ UHV ที่จะเริ่มใน 4Q15 จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าได้ดีขึ้นในปีหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ