การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดที่ 1,441.38 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,433.84 จุด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้โดยรวมรีบาวน์ขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่มองว่าน่าจะเป็นเพียงแค่ short term ในทางเทคนิคเท่านั้น เพราะทิศทางราคาน้ำมันเวลานี้ยังเป็นขาลงอยู่จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังเผชิญแรง take profit ที่มาจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ด้วย โดยนักลงทุนยังรอดูผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันนี้ ซึ่งหากผลออกมาคงอัตราดอกเบี้ยก็จะไม่ไปกดดันกลุ่มแบงก์ แต่สุดท้ายแล้วการลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์ยังขึ้นอยู่กับภาพรวมเศรษฐกิจด้วย ซึ่งขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างยังชะลอตัว
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ภายหลังจากที่ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนออกมาดี พร้อมให้จับตาธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯยังอยู่ในกรอบที่มองไว้
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ทิศทางตลาดฯขึ้นอยู่กับผลการประชุมกนง. ถ้าผลออกมาให้คงอัตราดอกเบี้ยก็อาจจะมีการเก็งหุ้นในกลุ่มแบงก์และช่วยลดแรงกดดันได้ แต่ถ้าผลออกมาให้ลดอัตราดอกเบี้ยก็ทำให้ไปกดดันหุ้นในกลุ่มแบงก์ได้ โดยเฉพาะแบงก์ขนาดใหญ่ พร้อมให้แนวรับ 1,430 จุด ส่วนแนวต้าน 1,440-1,450 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ASEFA มูลค่าการซื้อขาย 2,341.67 ล้านบาท ปิดที่ 7.10 บาท เพิ่มขึ้น 3.40 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 858.00 ล้านบาท ปิดที่ 178.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 751.84 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 722.26 ล้านบาท ปิดที่ 243.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 692.35 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท