ลักษณะงานเป็นการก่อสร้าง พร้อมจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ให้กับสถานีไฟฟ้าต้นทาง ที่ต้องรับไฟฟ้าตรงจากโรงผลิตไฟฟ้า เพื่อจ่ายให้ประชาชนอีกทอดหนึ่ง และนับว่าเป็นการปรับปรุงอาคารสถานีส่งไฟฟ้าแห่งแรกของกฟน.ด้วย โดยงานดังกล่าวกำหนดแล้วเสร็จวันที่ 7 ธันวาคม 2559 รับรู้รายได้ตามสัดส่วนความสำเร็จของงาน
บริษัท เทด้า ยังมีงานรอประมูลอีกหลายโครงการมูลค่าประมาณเกือบ 10,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีงานใหม่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่บริษัทฯได้รุกคืบเข้าสู่ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค หลังจากครึ่งปีแรกได้เซ็นสัญญาไปแล้ว 2 โครงการใหญ่ คือ การก่อสร้างสถานีไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ของกฟผ. และโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าเชิงเนิน จ.ระยองของ บจก.IRPC Green Energy รวมมูลค่าเกือบ 700 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบัน มีงานในมือแล้วถึง 2,107 ล้านบาท
ดังนั้น เทด้า จึงมั่นใจสิ้นปีรายได้โตขึ้นกว่า 50% และคาดว่าภายใน 5 ปี0เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากนโยบายด้านพลังงานของภาครัฐที่ต้องการสร้างโรงไฟฟ้า รวม ถึงการปรับปรุงความมั่นคงของระบบส่งไฟฟ้าในประเทศให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่วประเทศ จาก 3 หน่วยงานหลักด้านไฟฟ้าทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ,การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
"สายธุรกิจด้านพลังงาน และสาธารณูปโภค หรือ U-Trans (Utilities & Transportations) นำโดย บริษัทสามารถ ยู-ทรานส์ ร่วมด้วย บริษัทแคมโบเดียร์ แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส,กัมปอต พาวเวอร์ แพลนด์ และเทด้า เป็นกลุ่มธุรกิจที่เป็นความหวังที่จะสร้างรายได้ระยะยาวให้กับกลุ่มสามารถ โดยจะมีการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์กว่า 1 แสนล้านในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศ และยังมีโอกาสจากธุรกิจการบินทั้งในลาวและพม่าด้วย"นายวัฒน์ชัย กล่าว