บริษัทตั้งเป้าที่จะเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ 26 โครงการ มูลค่าราว 2.6-2.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 40% และโครงการแนวราบ 60% โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทเปิดตัวไปแล้ว 28 โครงการ และช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทันไว้ราว 2 พันล้านบาทเพื่อใช้ซื้อที่ดิน ขณะเดียวกันบริษัทยังมีการทำโครงการซุปเปอร์ซีโร่เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยเริ่มในวันที่ 1-31 ส.ค. 58 ซึ่งจะนำโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 78 โครงการมาร่วมงานเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดเพิ่มเติมด้วย
"เราเน้นการเปิดโครงการในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล เป็นหลัก ซึ่งเรายังเน้นการเปิดโครงการที่เป็นแนวราบเป็นส่วนใหญ่ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อเพื่ออยู่จริง ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในย่านที่เป็นพนักงานประจำ หรือเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีเงินเดือนประจำ ซึ่งปัจจุบันกำลังซื้อก็เริ่มกลับมาแล้ว แต่ในส่วนของผู้ประกอบการ SMEs และภาคเกษตรกรรมนั้นเราค่อนข้างเป็นห่วงเพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ในส่วนนี้เราก็จะเลี่ยงการไปเปิดโครงการด้วย เพื่อลดความเสี่ยงจากยอดขอปฎิเสธสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มคนที่ยังมีกำลังในการซื้อก็ถือว่าเป็นช่วงที่ดีเหมาะสมในการเข้าซื้อ เพราะต้นทุนการก่อสร้างที่ต่ำลงตามราคาน้ำมันที่ลดลง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ"นายชัชชาติ กล่าว