"ไม่ว่าเงื่อนไขจะออกมาอย่างไร เอไอเอสก็เข้าร่วมประมูลตามเงื่อนไข ซึ่งเอไอเอสเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ยังไงก็ตามเราต้องมีนโยบายที่ชัดเจนในการให้บริการลูกค้าให้ได้อย่างแน่นอน ถ้าเอไอเอสมี 4G เข้ามาจะมีปรากฎการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้น ซึ่งจะกระจายไปสู่แอพพลิเคชั่นในการศึกษา การเกษตร หรือแม้กระทั่งสาธารณสุข เป็นต้น มองว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า จะเป็นช่วงของการใช้งานบนระบบ 4G และดูแลลูกค้าหลังปรับระบบ"นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ ADVANC หรือเอไอเอสเป็นผู้ให้บริการ mobile operators และมีแผนขยายธุรกิจเข้าไปสู่ digital life service providers ขณะที่การประมูล 4G จะเป็นการให้บริการลูกค้าในขีดความสามารถที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทฯก็ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบมมจ.ทีโอที (TOT) ซึ่งบริษัทฯจะเข้าไปเป็นพันธมิตรทั้งธุรกิจโมบาย และ ธุรกิจบรอดแบนด์ คาดว่าจะสรุปความชัดเจนได้ภายในเดือนส.ค.นี้
นอกจากนั้น ผลการดำเนินงานปีนี้บริษัทฯได้ปรับเป้าหมายรายได้ลดลงมาเหลือเติบโต 3% จากเดิมคาดโต 3-4% แตยังเชื่อว่าจะเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมที่คาดว่าเติบโตไม่ถึง 3% เนื่องจากเป็นไปตามภาวะโดยรวมของประเทศที่มีอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(GDP)ราว 3%
ขณะที่แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะเน้นการให้บริการและดูแลลูกค้าของตัวเองเป็นหลัก เพื่อรองรับความต้องการย้ายจากการใช้งานบนระบบ 2G มาเป็น 3G ในช่วงนี้ที่ตลาดอยู่ระหว่างการปรับตัว ซึ่งที่ผ่านมาความต้องการใช้งาน data มากขึ้น และบริษัทฯมีการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือของเอไอเอส ซึ่งตั้งแต่มีการเปิดขาย AIS LAVA มียอดขายไปแล้วกว่า 4-5 ล้านเครื่อง
"ธุรกิจบรอดแบนด์ปีนี้บริษัทฯตั้งป้ารายได้ราว 80,000 ล้านบาท และภายใน 5 ปีจากนี้จะขยับขึ้นเป็นผู้เล่นหลักในธุรกิจบรอดแบนด์ เนื่องด้วยตลาดบรอดแบนด์ในประเทศไทย 98% เป็น ADSL ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนหมด โดยบริษัทฯก็มีการทำตลาดออกไปก็ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี เพราะเรามีจุดแข็งคือ network quality service excellent และอยากจะทำให้เกิดขึ้นกับ fixed บรอดแบนด์ด้วย"นายสมชัย กล่าว