ส่วนโรงงานท่อร้อยสายไฟใต้ดินชนิดอีพ็อกซีเรซินเสริมใยแก้ว ขณะนี้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิตได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ และจะทยอยรับรู้รายได้ต้นปี 59 โดยน่าจะสร้างรายได้อย่างมั่นคงในอนาคต
"ที่ผ่านมาการเติบโตของธุรกิจท่อสำหรับงานระบบต่างๆ ในอาคาร มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างชัดเจนในผลิตภัณฑ์ของ ARROW เห็นได้จากคำสั่งซื้อในปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 150 ล้านบาทแล้ว ซึ่งเชื่อว่าในไตรมาสที่เหลือของปีนี้จะมีคำสั่งซื้อใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีกอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้"นายธานินทร์ กล่าว
นายธานินทร์ กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 117.88 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 64.97 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัว 81.43 % ขณะที่รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 605.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับสาเหตุที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปีนี้มีการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากบริษัทประสบความสำเร็จในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับโครงการต่างๆมากขึ้น มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2558 จึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2558 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท จำนวน 251 ล้านหุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 37.65 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2558 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551 โดยประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 26 สิงหาคม 2558 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 8 กันยายน 2558