KSAM ออกกองทุนตราสารหนี้ตปท.3 เดือนขาย 11-18 ส.ค.ผลตอบแทน 1.95%ต่อปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 11, 2015 14:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 3M3 (KFFAI3M3) อายุประมาณ 3 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 11 - 18 สิงหาคม 2558 เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ลงทุนขั้นต่ำ 510,000 บาท ประมาณการผลตอบแทน 1.95% ต่อปี

นายอลัน ชิ ยิม แคม กรรมการผู้จัดการ (รักษาการ) บลจ.กรุงศรี(KSAM) เปิดเผยว่า บริษัทฯเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 3M3 (KFFAI3M3) อายุประมาณ 3 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน , มาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 10% เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาธารณรัฐประชาชนจีน , ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 10% เงินฝากธนาคาร Akbank T.A.S. (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 11% ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Isbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23% ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Vakifbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23% และตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Yapi Kredit bank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23%

ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 1.95% ต่อปี (ประมาณการค่าใช้จ่ายของกองทุนที่ 0.16%ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป"

“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 3M3 (KFFAI3M3) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทนโดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน"นายอลัน กล่าว

สำหรับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 0.03 – 0.09% ตามตัวเลขภาคบริการที่ออกมาแข็งแกร่งและความคาดหวังว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้น ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลง 0.01 – 0.04% โดยที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวลดลงมากกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี โดยที่ผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและปัญหาภัยแล้งจะถูกทดแทนโดยภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีกว่าที่คาดและการใช้จ่ายด้านการลงทุนของภาครัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ