ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมผลการดำเนินงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากโครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 59
ส่วนกลุ่มธุรกิจน้ำตาลทรายนั้น บริษัทจะยังคงทยอยส่งมอบน้ำตาลทรายตามสัญญาไปยังลูกค้า คาดว่าจะสามารถส่งมอบน้ำตาลทรายที่เหลืออีก 30% ได้ทั้งหมดในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยในสัญญาซื้อขายน้ำตาลล่วงหน้านั้น บริษัทสามารถทำราคาส่งออกได้สูงกว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลก จึงทำให้คาดว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 บริษัทมีกำไรสุทธิ 146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 508% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลทรายของกลุ่ม BRR ที่สามารถผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) เฉลี่ยได้ 119 กิโลกรัมต่อตันอ้อย สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายโดยรวมที่ผลิตน้ำตาลทรายได้ 107 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตน้ำตาลทรายต่อหน่วยลดลงและช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจน้ำตาลทราย
นอกจากนี้ กำไรสุทธิที่เติบโตได้ดีนั้น ยังมาจากกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนหลังจากบริษัทได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ (COD) จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 2 อีก 8 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งมีราคาขายต่อหน่วยเพิ่มขึ้นเป็น 4.53 บาท เมื่อรวมกับโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 1 อีก 8 เมกะวัตต์ จึงทำให้กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนของ BRR เข้ามาช่วยผลักดันการเติบโตของกำไรสุทธิได้ดียิ่งขึ้น
"ภาพรวมผลการดำเนินงานถือว่า BRR ยังสามารถรักษาอัตราการขยายตัวที่ดี โดยเฉพาะกำไรสุทธิที่ยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลทรายที่ดีและธุรกิจพลังงานทดแทนที่เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม BRR ที่มุ่งต่อยอดสร้างความเข้มแข็งด้วยการนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตมาต่อยอดสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนที่ผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด"นายอนันต์ กล่าว