"บริษัทฯเตรียมเจรจากับพันธมิตรที่ประเทศออสเตรเลียในช่วงเดือนก.ย.นี้ เพื่อหวังเข้าร่วมลงทุนทางธุรกิจและขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศออสเตรเลียเอง และกลุ่มประเทศ AEC โดยปัจจุบันบริษัทฯมีการส่งสินค้าไปยังประเทศดังกล่าวอยู่แล้ว ซึ่งหากมีความเป็นไปได้ที่จะจับมือเป็นพันธมิตรกัน ก็จะส่งผลดีต่อการเข้าถึงลูกค้าได้ดีขึ้น และส่งผลต่อรายได้-กำไร ที่จะเติบโตต่อเนื่องในอนาคต ประกอบกับเพื่อตอกย้ำแผนระยะยาวที่บริษัทฯอยากจะดำเนินธุรกิจขายสินค้าผ่านเอเย่นต์มากขึ้น จากเดิมที่มีการขายสินค้าโดยตรง อย่างไรก็ตามการขายสินค้าผ่านเอเย่นต์อาจจะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูง แต่ในระยะยาวบริษัทฯจะได้ความน่าเชื่อถือและการมี Value"นางสาวนิจวรรณ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศ AEC เช่น พม่า กัมพูชา และลาว โดยช่วงเดือนพ.ย.58 ก็มีแผนที่จะไปจัดแสดงสินค้าและหาเอเย่นต์ที่ประเทศพม่า เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าดังกล่าว ขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมทั้งในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น เดิมบริษัทฯมีสัดส่วนการส่งออกมากถึง 99% ได้แก่ ประเทศสหรัฐฯ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และยุโรป
ดังนั้นในครึ่งปีหลังนี้บริษัทมีแผนออกแสดงสินค้า โดยในเดือนก.ย.จะไปที่ออสเตรเลีย พบปะกับลูกค้า และขยายฐานลุกค้าเพิ่มเติม ร่วมถึงก็ถือโอกาสในการเจรจาเพื่อหาพันธมิตรเข้าร่วมลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าสามารถตกลงกันได้ก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจของเราทั้งสองฝ่าย ขณะที่ปลายเดือนพ.ย.นี้ก็จะไปแสดงสินค้าที่พม่า ก็จะเป็นการเข้าไปหาลูกค้าในกลุ่ม AEC เพิ่ม จากเดิมที่บริษัทยังไม่มีสัดส่วนรายได้จากตรงนี้
“HPT กำหนดเป้าหมายที่จะขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆในกลุ่มประเทศอเมริกาใต้ กลุ่มประเทศอาหรับ และ AEC เพื่อเสริมสร้างรายได้ในอนาคตให้เติบโตและมั่นคง โดยเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเป็นที่ยอมรับทั้งด้านคุณภาพ ความทนทาน และการดีไซน์ เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญการผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิค ประเภทไฟน์ไชน่ามาอย่างยาวนาน จึงทำให้ทราบถึงความต้องการ รวมทั้งลักษณะการใช้งานของกลุ่มลูกค้าร้านอาหาร-โรงแรมในโซนต่างๆเป็นอย่างดี"นางสาวนิจวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังการระดมทุนบริษัทได้ทำการติดตั้งเตาเผาและเครื่องจักรใหม่ เพื่อขยายคอขวดในกระบวนการผลิต ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการทดสอบเครื่องจักร (Test Run) และคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/2558 จะสามารถเริ่มการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้
สำหรับผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปี 2558 บริษัทมีรายได้รวม 27.28 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1.83 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือน บริษัทมีรายได้รวม 57.3 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 4.34 ล้านบาท ซึ่งลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในช่วงดังกล่าวทางบริษัทมีการปิดซ่อมบำรุงเตาเผาที่ใช้เวลาปิดซ่อมนานกว่าปีก่อน
ส่วนแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ไว้เติบโต 10% หรือประมาณ 150 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 131.24 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นที่คาดว่าน่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 30% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจ ที่ลูกค้าจะออเดอร์สินค้าเข้ามาจำนวนมาก ขณะที่ครึ่งปีแรกบริษัทฯมีการปิดซ่อมบำรุงเตาเผาไปทั้งสิ้น 15 วัน จากที่ผ่านมามีการเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต 100% มาเป็นระยะเวลายาวนาน จึงส่งผลทำให้การส่งมอบออเดอร์ในไตรมาส 2/58 เลื่อนออกไปมาเป็นไตรมาส 3/58 แทน มูลค่าราว 3 ล้านบาท ทำให้ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯซื้อเตาเผาเข้ามาใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเดินเครื่องผลิตได้ในไตรมาส 4/58 และน่าจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 20% จากเดิมที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3 ล้านชิ้นต่อปี และตั้งเป้ากำลังการผลิตภายใน 5 ปีจากนี้เพิ่มเป็นเท่าตัว