"ปีนี้รายได้ กำไร จะทำนิวไฮแน่นอน และน่าจะเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าได้ จากปีนี้บริษัทสามารถลดต้นทุนดอกเบี้ย รับรู้ปันผลจากที่ผ่านมาได้เข้าไปถือหุ้นมากกว่า 50% และยอดขายก็เติบโต"นายนพดล กล่าว
ปีที่แล้ว GPSC มีกำไรสุทธิ 1.58 พันล้านบาท และมีรายได้ 2.39 หมื่นล้านบาท
นายนพดล กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนร่วมลงทุนในปี 63 ที่ระดับราว 2.8-2.9 พันเมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1.3 พันเมกะวัตต์ โดยจะมาจากการขยายกำลังการผลิตตามแผนอีกราว 500 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและจะทยอยแล้วเสร็จในปีนี้จนถึงปี 63 ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน พาวเวอร์ (IRPC-CP),โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก(SPP)ที่ร่วมกับ บมจ.นวนคร(NNCL), โรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่นในเฟส 2(BIC2), โครงการไซยะบุรี และโครงการน้ำลิกในลาว
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินศูนย์ผลิตสาธารณูปการแห่งที่ 4 (CUP4) ในจ.ระยอง ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 40 เมกะวัตต์ และไอน้ำราว 70 ตัน/ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันได้รับการอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว โดยคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 60
ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการทั้งในประเทศ จำนวน 1 ราย และต่างประเทศจำนวน 2 ราย ซึ่งจะเป็นลักษณะของการเข้าไปซื้อหุ้นบางส่วน รวมถึงยังให้ความสนใจในธุรกิจถ่านหินและก๊าซฯด้วย โดยภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ก็มองเห็นโอกาสในการเข้าซื้อ กิจการดังกล่าว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดของดีลดังกล่าว