สำหรับเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้บริษัทคาดว่าจะทำได้ 2,888 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมีรายได้รวม 2,563 ล้านบาท และมีโอกาสเทิร์นอะราวด์ ส่วนอีก 3 ปีข้างหน้า คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี ตามการขยายตัวของ Home Shopping นอกจากนี้ยังจะเริ่มดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยแบบเต็มรูปแบบในไตรมาส 3/2558 และเน้นพัฒนาสินค้าที่เป็น House Brand มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทมีแนวโน้มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2/2558 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 701.502 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 643.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 6.18 ล้านบาท เนื่องจากเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัท ทีวีดี ช้อปปิ้ง จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง TVD กับบริษัท โมโม่ดอทคอม อินคอร์ปอร์เรชั่น มากขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังลดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับการบริหารจัดการภายในองค์กรใหม่ โดยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าทาง Online Shopping , Home Shopping และปิดสาขา TV Direct Showcase ที่สร้างผลตอบแทนไม่ดี เพื่อลดภาระและการขาดทุนประหยัดค่าเช่า ด้วยการลดขนาดพื้นที่เช่าตามห้างสรรพสินค้าให้เหลือพื้นที่เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น
“บริษัทลดค่าใช้จ่ายต่างๆ มากขึ้น เช่นลดค่าเช่าสื่อโฆษณาและเพิ่มการส่งเสริมการจำหน่ายสินค้า เพื่อกระตุ้นยอดขายในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอ กำลังซื้ออ่อนลง โดยปรับตัวจากปัจจัยลบเรื่องกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนแอลง ด้วยการเน้นจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่ปัจจุบันไม่ได้ใช้แค่ทางทีวี เพื่อความบันเทิง แต่จะมีการใช้อุปกรณ์ สื่อสารต่างๆ ควบคู่ไปด้วย (Multiscreen) เช่น โทรศัพท์มือถือ ไอแพด และ Notebook จึงทำให้รายได้และกำไรในไตรมาส 2 ปีนี้ดีขึ้น" นายทรงพล กล่าว