ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนสิ้นสุด 30 มิ.ย.58 บริษัทฯ มีรายได้รวม 243 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 653% จากช่วงเดียวกัน ของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6 ล้านบาทเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติหลั่งไหลกันเข้ามา ท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯคือ นักท่องเที่ยวอิสระหรือ F.I.T. จาก จีน ฮ่องกง สิงค์โปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน โดยรายได้ส่วนใหญ่ มาจากการให้บริการธุรกิจสปาทั้ง 2 แบรนด์ คือ ระรินจินดา เวลเนส สปา (ระดับ 5 ดาว) และเล็ทส์ รีเล็กส์ สปา (ระดับ 4 ดาว) คิดเป็น 83% ที่เหลือมาจากธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาและอื่นๆ
“ผลงานไตรมาส 2/58 และในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทเป็นที่น่าพอใจ ตอบรับกับ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันแม้ไตรมาส 2 ที่ปกตินับว่าเป็น Low Season ของฤดูกาลท่องเที่ยว ในส่วนของกำไรสุทธินั้นใกล้เคียงกับของไตรมาส 1 เนื่องจากมีรายการพิเศษในไตรมาส 2 คือการว่าจ้างผู้ประเมินทรัพย์สินทำการประเมิน 6 โครงการที่บริษัทฯ ดำเนินการซื้อทรัพย์สินในช่วงต้นไตรมาส 3 อาทิ S Sense Spa ที่ปรับเป็น Let’s Relax เอกมัย Sarahn Relax ที่จะปรับเป็น Let’s Relax สวนพลูและบ้านสวน มาสสาจ 4 สาขา" นายวิบูลย์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้า เพิ่มยอดขายต่อ ลูกค้าผ่านการขายผลิตภัณฑ์สปา และเร่งขยายสาขาเพิ่ม โดยภายในสิ้นปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีสปาทั้งหมด 21 สาขา แบ่งเป็น ระรินจินดา เวลเนส สปา จำนวน 3 สาขา Let’s Relax จำนวน14 สาขา และ Baan Suan Massage จำนวน 4 สาขา
ในปีนี้บริษัทได้ปรับเป้าหมายในการเจริญเติบโตล่าสุดเป็น 55% โดยคาดว่ารายได้ปี 58 สามารถแตะหลัก 500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากรายได้ปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 343 ล้านบาท หลังจากได้ ปิดดีลเทคฯ บ้านสวน มาสสาจ สปาระดับ 3 ดาว จำนวน 4 สาขาและมีการเติบโต ของรายได้ของแต่ละสาขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสาขาเดิม (Same Store Growth) และสาขาที่เปิดใหม่ (Expansion Growth) โดยสาขาที่จะเปิดดำเนินการถัดไปคือ Let’s Relax สาขาถนนคนเดิน ท่าแพ ซึ่งจะเปิดให้บริการ 28 สิงหาคม