บริษัทมีสินค้ารอรับรู้รายได้(Backlog) สูงถึง 13,308 ล้านบาท เป็นสินค้าแนวราบมูลค่า 3,400 ล้านบาท คาดว่าจะ สามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในครึ่งปีหลัง ส่วน Backlog คอนโดมิเนียมมูลค่า 9,907 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปี หลังประมาณ 4,221 ล้านบาท
แผนการเปิดตัวโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 15 โครงการ มูลค่ารวม 24,020 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 4 โครงการ มูลค่า 15,240 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์จำนวน 6 โครงการ มูลค่า 5,490 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวจำนวน 5 โครงการ มูลค่า 3,290 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/58 บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตทั้งในส่วนของกำไรสุทธิและรายได้รวมที่สูงขึ้น โดยมี กำไรสุทธิเท่ากับ 643 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% หากเทียบกันกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไร 560 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24% หากเทียบ กับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านรายได้รวมในไตรมาส 2/58 เท่ากับ 5,402 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มี รายได้ 5,220 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ รายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลมาจากการโอนฯ คอนโดมิเนียมและทาวน์เฮาส์รวมทั้งสิ้น 5 โครงการ โดยสามารถ จัดอันดับได้ ดังนี้
สัดส่วนต่อรายได้รวม สถานะการส่งมอบไปแล้ว 1. RHYTHM สาทร 15% 18% 2. RHYTHM สาทร – นาราธิวาส 9% 96% 3. Aspire สาทร – ตากสิน (Timber Zone) 9% 44% 4. Aspire สุขุมวิท 48 6% 68% 5. บ้านกลางเมือง พระราม 9 – รามคำแหง 4% 91%
บริษัทสามารถสร้างยอดขายเฉพาะไตรมาส 2/58 ได้สูงสุดถึง 12,623 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 77% หากเทียบกับไตร มาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยคีย์ซัสเซสสำคัญมาจากยอดขายคอนโดมิเนียมที่สูงสุดในประวัติการณ์เท่ากับ 9,913 ล้านบาท จากการ จัดแคมเปญ AP SPACE CONNECT เปิดขาย 4 คอนโดใหม่ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้แก่ 1) RHYTHM รางน้ำ (sold out) 2) Life อโศก 3) Aspire ลาดพร้าว 113 และ 4) Aspire วุฒากาศ