ส่วนความคืบหน้าการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนนั้น บริษัทยังคงมีนโยบายการลงทุน และมีการศึกษาแผนการลงทุนต่อเนื่อง โดยกำลังอยู่ในช่วงการดำเนินการและรอความชัดเจนของนโยบายภาครัฐ ซึ่งโครงการที่บริษัทจะไปลงทุนนั้นต้องมีความเสี่ยงและผลตอบแทนอยู่ในระดับที่คุ้มค่าต่อการลงทุน ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมในทุกด้านทั้งบุคคลากร เงินทุน และประสบการณ์ในการบริหารเชื้อเพลิง
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/58 บริษัทมีรายได้ 970.67 ล้านบาท ลดลง 43.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 27.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากนโยบายมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งบริษัทให้ความสนใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและคลังสินค้า รวมควบคุมภาพสินค้าเพื่อให้ได้ตามความต้องการของลูกค้า
ส่วนผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 58 มีรายได้รวม 2,341.39 ล้านบาท ลดลง 34.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับยอดขายถ่านหินอยู่ที่ 1.11 ล้านตัน ลดลง 42.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายในตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 34.54 ล้านบาท ลดลง 4.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจและแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่จะปรับตัวให้เหมาะสมกับภาวะอุตสาหกรรม จากเน้นกลยุทธ์ในการลดต้นทุน รวมถึงการเน้นการบริการ และการควบคุม คุณภาพของสินค้า โดยในปีเราให้ความสนใจกับการขายในประเทศเป็นหลัก สำหรับตลาดต่างประเทศยังคงได้รับผลกระทบ จากสภาวะเศรษกิจของจีน ทำให้การนำเข้าถ่านหิน (thermal coal) ของจีนปรับตัวลดลง"นายพนม กล่าว