ด้าน Mobile-Multimedia มีรายได้รวมครึ่งปี 4,497 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 190 ล้านบาท โดยมีจำนวนโทรศัพท์มือถือที่จำหน่ายได้ในครึ่งปีแรก 1.5 ล้านเครื่อง แม้ตลาดจะยังคงซบเซาแต่กระแสตอบรับในเครื่องรุ่นใหม่ที่เปิดตัวไปแล้วจำนวน 14 รุ่น ก็ยังคงเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข็งขันให้กับกลุ่ม Mobile-Multimedia จะมีการสร้าง Brand Positioning ใหม่ให้กับไอ-โมบาย โดยเน้นความเป็น Mobility ดึงจุดเด่นของโทรศัพท์มือถือ คอนเทนส์และบริการเครือข่าย MVNO มาผสมผสานและนำเสนอโทรศัพท์มือถือที่ครบเครื่องและคุ้มค่าที่สุดในตลาด นอกจากนี้จะมีการเปิดตัวธุรกิจใหม่ของกลุ่ม Multimedia ในไตรมาส 3 ซึ่งจะสามารถรองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิตอลได้เป็นอย่างดีและน่าจะเป็นแหล่งรายได้ประจำของกลุ่มธุรกิจนี้ต่อไป
ด้านสายธุรกิจ Related Businesses มีรายได้รวมกันกว่า 1,251 ล้านบาท จากธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ ของบมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ ธุรกิจเสาและกล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวี ของบริษัท สามารถวิศวกรรม และธุรกิจกล้องวงจรปิดของบ.วิชั่น แอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม ในช่วงครึ่งปีหลัง จากเทรนด์ของการใช้ Outsource Call Center คาดว่า “วันทูวัน คอนแทคส์" จะสามารถเซ็นสัญญางานใหม่ได้อีก 350 ล้านบาท จากปัจจุบันซึ่งมีงานในมือแล้วกว่า 1,300 ล้านบาท ส่วนสามารถวิศวกรรม มีโอกาสจากคูปองดิจิตอลทีวีล็อตสุดท้ายจำนวนกว่า 5 ล้านใบ และทำการตลาดรุกเข้าสู่กลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น ตั้งเป้าปีนี้รับแลกไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านเครื่อง
สุดท้าย สายธุรกิจ U-Trans มีรายได้ครึ่งปี 1,350 ล้านบาท นอกจากความเสถียรของรายได้ประจำจาก CATs และโรงไฟฟ้ากัมปอต ที่ประเทศกัมพูชาแล้ว ยังมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากบริษัทลูกคือ เทด้า ซึ่งล่าสุด ได้งานโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าต้นทางพระนครใต้ ของกฟน. มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท อีกทั้งในครึ่งปีหลัง เทด้ายังมีโอกาสได้งานจากทั้ง กฟน. กฟฝ. และ กฟภ. รวมมูลค่าอีกราว 1 หมื่นล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้นสายธุรกิจนี้ยังมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานขยะที่ จ.เชียงใหม่ เตรียมลงนามสัญญากับเจ้าของหลุมขยะในสิ้นเดือนนี้ ส่วนอีก 2-3 จังหวัดใหญ่ๆ ก็อยู่ในระหว่างนำเสนอโครงการ คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้
ส่วนความคืบหน้าของการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ อาทิ ลาว และกัมพูชา ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ลงนาม MOU เพื่อศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศลาว หากผลการศึกษาเป็นไปด้วยดีจะมีการเซ็นสัญญากับผู้ถือหุ้นในเดือนหน้า ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา ก็มีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะสามารถนำเสนอราคาค่าไฟเบื้องต้นให้แก่ กฟผ. ภายในสิ้นเดือน ส.ค นี้
“ผมถือว่าเราได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในครึ่งปีแรก จากนี้ไปมั่นใจว่าผลประกอบการของกลุ่มบริษัทสามารถจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มอย่างชัดเจน แม้ว่าหลายฝ่ายจะออกมาคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยจะยังคงไม่กระเตื้องขึ้นมากนัก แต่ในฐานะภาคเอกชน บริษัทฯ ก็จะมุ่งมั่นทำงานให้ดีที่สุด ผมคิดว่าช่วงวิกฤตก็คือโอกาส เราควรจะใช้ช่วงเวลานี้ในการปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อนและพัฒนาจุดแข็ง เพื่อให้เราแข็งแกร่งเพียงพอที่จะฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ และพร้อมที่จะเข้าสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาคต่อไป"นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้าย