การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีความเหมาะสมในการลงทุนในระยะยาว โดยต้องเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิต่อเนื่องทุกปี (พิจารณาจากผลประกอบการปี 55-57) มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก มีการจ่ายปันผลต่อเนื่องตลอดช่วง 3 ปี และมีระดับคะแนนบรรษัทภิบาลตั้งแต่ “ดี" หรืออยู่ในเกณฑ์ 3 ดาวขึ้นไป ซึ่งพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนถึง 123 บริษัทจากทั้งหมด 605 บริษัทที่เป็นตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “Dividend Universe"
บริษัทจดทะเบียนใน Dividend Universe มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลต่อปี(Dividend yield) เฉลี่ยในช่วง 3 ปี อยู่ที่ 3.39% ขณะที่ตลาดมี Dividend yield เฉลี่ยอยู่ที่ 2.51% บริษัทจดทะเบียนใน Dividend Universe กระจายอยู่ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเมื่อเทียบกับจำนวนบริษัทในแต่ละอุตสาหกรรม พบว่า บริษัทในอุตสาหกรรมทรัพยากร บริการ เทคโนโลยี และสินค้าอุปโภคและบริโภค อยู่ใน Dividend Universe ในสัดส่วนสูงกว่าอุตสาหกรรมอื่น
บริษัทจดทะเบียนใน Dividend Universe ที่อยู่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจการเงิน และสินค้าอุตสาหกรรม มีผลตอบแทนจากเงินปันผลต่อปี (Dividend yield) เฉลี่ยสูงกว่าอุตสาหกรรมอื่น โดยอยู่ที่ 4.33%, 4.00% และ 3.96% ตามลำดับ
เมื่อจำลองพอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยหุ้นของบริษัทจดทะเบียนใน Dividend Universe ที่มี Dividend yield เฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ศึกษาในอัตราสูงสุด 15 อันดับแรก ในช่วงเวลาลงทุน 3 ปี (ปี 55-57) พบว่า พอร์ตนี้ให้ผลตอบแทนรวมสูงถึง 88% ซึ่งแบ่งเป็น 1) กำไรจากส่วนต่างราคา 62% ของเงินลงทุนเริ่มต้น และ 2) เงินปันผล 26% ของเงินลงทุนเริ่มต้น หรืออาจกล่าวได้ว่า พอร์ตจำลองนี้ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (Compound Annual Growth Rate: CAGR) อยู่ที่ 23% ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนรวมเฉลี่ยต่อปีของ SET ในช่วงเวลาเดียวกันที่อยู่ที่ 17%
ณ 30 มิ.ย.58 มีบริษัทจดทะเบียนใน Dividend Universe จำนวน 19 บริษัทที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนตั้งแต่ 5% ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งของนักลงทุนในการตัดสินใจลงทุนขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ระดับต่ำกว่า 1.5% อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยงนักลงทุนพึงศึกษาข้อมูลและปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วยเพื่อการตัดสินใจอย่างรอบคอบก่อนลงทุน