"เดินหน้าขยายสถานีบริการทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากขึ้น เรามีการเพิ่มสถานีบริการในตัวเมือง รวมถึงการเพิ่มสถานีบริการ LPG ตามแผนงานที่ตั้งไว้ ซึ่งเราคาดว่าจำนวนสมาชิกบัตร PT Max Card จะเพิ่มสูงขึ้นแตะ 3.6 ล้านใบในปีนี้ตามเป้าหมาย จากในเดือนมิถุนายนที่มีสมาชิกอยู่ที่ 3 ล้านใบ"นายพิทักษ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 24.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 136 ล้านบาท และมีรายได้รวม 14,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 315 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 13,889 ล้านบาท โดยการเติบโตของทั้งกำไร และรายได้เกิดจากปริมาณการขายน้ำมันอยู่ที่ 566 ล้านลิตรเพิ่มสูงขึ้นถึง 23.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน รวมถึงมีการลดสัดส่วนในการจำหน่ายน้ำมันผ่านการค้าส่งลดลง ซึ่งมีการแข่งขันด้านราคาที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ 1%
ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาราคาขายปลีกน้ำมันจะลดลงถึง 18% แต่ในมุมกลับกันก็ช่วยกระตุ้นปริมาณการใช้น้ำมันให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญเรามีการบริหารจัดการที่ดี มีการขยายสถานีบริการน้ำมันโยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพสูงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงลดสัดส่วนการขายส่งน้ำมันลง เพราะมีการแข่งขันด้านราคาที่สูงมาก ทำให้ทั้ง EBITDA และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯเพิ่มสูงขึ้น