ขณะเดียวกันปรับแผนการขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,600 สาขาจากเดิม 1,400สาขาในสิ้นปีนี้ หลังปัจจุบันเปิดสาขาได้แล้ว 1,400 สาขา และตั้งเป้าหมายสิ้นปี 59 จะมีสาขาเพิ่มเป็น 2,000 สาขา ครอบคลุมทุกพื้นที่ชุมชน
สำหรับกำไรสุทธิไตรมาส 3/58 คาดว่าจะสูงกว่าไตรมาส 2/58 อยู่ที่ 291ล้านบาท หลังคาดว่าจะตั้งสำรองลดลง เนื่องจากคุณภาพลูกหนี้ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับการออกหุ้นกู้ที่ผ่านมาจำนวน 2 พันล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยดอกเบี้ย 4.1% ทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลงต่ำกว่า 7% จากครึ่งปีแรก ซึ่งส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในครึ่งปีหลังมากกว่า 25% ในครึ่งปีแรก
“เราจะออกหุ้นกู้อีกชุด 2 พันล้านบาทในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อนำมาขยายสินเชื่อ เนื่องจากเรามองเห็นความต้องการสินเชื่อที่ยังสูงอยู่ทำให้สิ้นปีนี้พอร์ตลูกหนี้ของเราปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1 หมื่นล้านบาท โดยสิ้นไตรมาส 2/58 อยู่ที่ 9.8 พันล้านบาทเพิ่มจากสิ้นปีก่อนที่ 6.2 พันล้านบาท"นางสาวธิดา กล่าว
นางสาวธิดา กล่าวว่า ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้จะควบคุมไม่ให้เกิน 3-4% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.6% โดยเป็นผลมาจากการติดตามหนี้อย่างใกล้ชิดทำให้การจัดระดับชั้นลูกหนี้ดีขึ้น นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะซื้อมูลหนี้จากสถาบันการเงินจำนวน 1,000 ล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยปัจจุบันอยู่ขั้นตอนการประกวดราคา โดยมูลหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น บ้าน ที่ดิน และ รถยนต์ ซึ่งคาดว่าบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้บางส่วนในปี 59
“หนี้ก้อนแรกที่เราจะซื้อมา 200 ล้านบาทนั้น เราคาดว่าจะปิดกองหนี้นี้ภายใน 2-3 ปี และจะทยอยรับรู้รายได้ใน 2-3 ปีข้างหน้าเช่นเดียวกัน ซึ่งให้ yeild สูงถึง 50% ประกอบกับ บริษัทกำลังจะเริ่มธุรกิจใหม่เป็นนายหน้าขายประกัน โดยตอนนี้อยู่ระหว่างรอคปภ.อนุมัติ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกำไรให้กับบริษัทในอนาคต"นางสาวธิดา กล่าว