EPG เตรียมงบซื้อกิจการทั้งใน-ตปท.งวดปี 59/60 ไว้ 1 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 17, 2015 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ (EPG) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนในงวดปี 59/60 (สิ้นสุด 31 มี.ค.60) สำหรับซื้อกิจการ (M&A) ทั้งในและต่างประเทศไว้ 1,000 ล้านบาท เพื่อการเติบโตในอนาคต โดยคาดว่ารายได้รวมปี 59/60 จะแตะ 10,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากการลงทุน ปรับปรุงธุรกิจ ทั้งการลงทุนในออสเตรเลีย การเติบโตของตลาดในประเทศและการเติบโตของตลาดในสหรัฐอเมริกา ขณะที่ในปี 58/59 (สิ้นสุดมี.ค.59) มั่นใจว่าจะทำรายได้ได้ตามเป้าหมายที่ 9,000 ล้านบาท
"การโตของธุรกิจมี 2 แนวทาง คือ M&A และการโตแบบออแกนิก ซึ่งถ้าเป็น M&A ก็จะโตเร็ว ถ้าโอกาสมา เราเจรจาซื้อกิจการได้ มูลค่า 1,000 ล้านบาท จะสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทอีกหลายพันล้านบาทต่อปี ก็จะเป็นการเติบโตที่เร็วขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจหลักของเราทั้ง Aeroklas, และ EPP ก็จะโตทุกปี ซึ่งเป็นข้อดีที่เราทำธุรกิจลักษณะโฮลดิ้งฯ" นายภวัฒน์ กล่าว

นายภวัฒน์ กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 58/59 (สิ้นสุดก.ย.58) คาดรายได้สูงกว่าไตรมาสแรก ที่ 2,074 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสแรก ยอดขายส่วนใหญ่มาจากกลุ่มสินค้าฉนวนกันความร้อน/เย็น แบรนด์ Aeroklas และผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ EPP ขณะที่ยอดขายจากอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ไตรมาสแรกเป็นช่วงเปลี่ยนรุ่น เคลียร์สต็อก พัฒนาสินค้า จึงยังไม่มีการส่งมอบมากนัก โดยสินค้าในกลุ่มตกแต่งรถยนต์จะไปส่งมอบในไตรมาส 2 มากขึ้น

นอกจากนี้ในไตรมาส 2 นี้ มีบิ๊กออร์เดอร์ในสินค้าฉนวนกันความร้อน/เย็นราว 300-400 ล้านบาท Aeroklas ราว 300-400 ล้านบาท และ EPP อีก 300-400 ล้านบาท และยังมีออร์เดอร์อื่นๆเข้ามาอีก

ส่วนการซื้อกิจการธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในจีนที่กำลังเจรจาอยู่นั้น ตอนนี้ก็ชะลอการตัดสินใจไว้ก่อนส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าและแนวโน้มเศรษฐจีนทีชะลอตัวลง โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ จึงต้องใช้เวลาศึกษาอีกสักระยะหนึ่งแต่คาดว่าในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้ จะได้ข้อสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว โดยบริษัทต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

"Aeroklas ปี 58/59 จะเป็นปีทองจาก backlog ที่มี 2,300 ล้านบาท ก็เพิ่มเป็น 3,000 กว่าล้านบาทได้ โดยเฉพาะสินค้าหลังคา ฝาครอบกระบะ sidestep ออร์เดอร์เยอะมาก ขณะที่แอร์โรเฟล็ก โดยเฉพาะอเมริกามีออร์เดอร์มากขึ้นจากการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้าง"นายภวัฒน์ กล่าว

นายภวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับงบซื้อกิจการของปี 58/59 ใช้ไปแล้ว 500-600 ล้านบาท โดยยังไม่รวมหากจะต้องซื้อกิจการยานยนต์ในจีนเพิ่มเติม ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพียง 0.4 เท่า ถือว่าต่ำมากทำให้ยังมีศักยภาพในการกู้ ซึ่งจะไม่มีปัญหาเรื่องแหล่งเงินทุน

"ปี 58/59 มั่นใจรายได้ 9,000 ล้านบาท จะพยายามคงอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30.8% ให้เท่ากับไตรมาสแรกปีนี้ และจะทำอัตรากำไรสุทธิให้สูงขึ้นกว่า 13.9% ของไตรมาสแรก ซึ่งในไตรมาส 2 ก็น่าจะทำให้กำไรได้ในระดับที่น่าพอใจ ทิศทางเดียวกับรายได้ที่จะสูงขึ้น" นายภวัฒน์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ