สำหรับทิศทางการเติบโตของธุรกิจในครึ่งปีหลัง 58 คาดว่าผลการดำเนินงานจะกลับมาโดดเด่นได้อีกครั้ง จากการปรับกลยุทธ์การขยายตลาดในธุรกิจเคมีภัณฑ์ เพื่อต่อยอดธุรกิจ หลังจากการควบรวมกิจการระหว่าง APC แล้ว โดยการมุ้งเน้นการขยายฐานลูกค้า และเปิดตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า กัมพูชา และลาว
ส่วนการดำเนินการขายไฟฟ้าในรูปแบบเชิงพาณิชย์ของโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ โดยใช้หญ้าเนเปียร์เป็นเชื้อเพลิง ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1.5 เมกะวัตต์ ปัจจุบันรอเพียงสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) ซึ่งคาดว่าจะทราบความชัดเจนได้ภายในเดือนกันยายนนี้
ดังนั้น UAC จึงมันใจว่าเป้ารายได้ที่บริษัทฯ วางไว้ 1,500 ล้านบาท จะสามารถทำได้อย่างแน่นอน เพราะการเติบโตของธุรกิจพลังงานที่ทยอยเปิดดำเนินการเพิ่มขึ้น เช่น โครงการติดตั้ง โซลาร์รูฟ ที่ จ.สมุทรปราการ มีกำลังการผลิต 924.56 kW และที่ จ. สุราษฎร์ธานี มีกำลังการผลิต 750.20 kW ได้ดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว รวมทั้งโครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (CBG 2) ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ดำเนินการแล้วเสร็จเช่นกัน บวกกับการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการของ APC ทำให้บริษัทรับรู้รายได้ประมาณ 400 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 2/58 สิ้นสุดวันที่ 31 มิ.ย.58 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 523.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.32% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 23.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 498% จากงวดเดียวกันปีก่อน และผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 58 บริษัทฯมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 766.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.83% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรก 25.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.66% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเติบโตจากโครงการต่างๆของบริษัทได้เริ่มดำเนินการได้เพิ่มขึ้น บวกกับธุรกิจเทรดดิ้งที่มีการทำการตลาดเพิ่มขึ้น
สาเหตุที่ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/58 ปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของโครงการต่างๆได้ทยอยแล้วเสร็จ ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้หลักจากธุรกิจเทรดดิ้งและธุรกิจการผลิตที่ได้ลงทุนไปเช่น บริษัท ยูเอซี แอดวานซ์ โพลีเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ (UAPC) มีรายได้ 72.39 ล้านบาทและโรงไฟฟ้าโซลาร์รูฟอีก 2 แห่งได้เริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ว ทั้งนี้โรงผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) ก็สามารถเดินเครื่องต่อเนื่องมีความสม่ำเสมอมากขึ้นด้วย
ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก 58 ถือว่าเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของบริษัท เพราะครึ่งปีแรกมี EBITDA อยู่ที่ 76.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.73% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แสดงถึงทิศทางที่เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงของ UAC