"ตลาดมีการ re-act ตามเหตุการณ์ แต่หลายคนก็มองเหตุการณ์น่าจะส่งผลกระทบจำกัด"นางภัทธีรา กล่าว
นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ที่จริงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอ่อนแอลงมาก ไม่เฉพาะแต่ประเทศไทย แต่เป็นไปทั่วทั้งโลก และสถานการณ์ขณะนี้ก็ยังไม่นิ่งหลังจากเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลง ทำให้สภาพการค้าขายเปลี่ยนไป เรียกได้ว่าเข้าสู่การปรับฐานใหม่ ธุรกิจบางส่วนอาจชะงัก ซึ่งแต่ละประเทศก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง อย่างไทยก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง อย่างเรื่องของการลงทุน เป็นต้น
"นักวิเคราะห์ฯก็ได้มีการปรับลดประมาณการดัชนี SET ลงมากันแล้ว โดยมาอยู่แถว 1,450-1,500 จุด จากเดิมเมื่อต้นปีมองเป้าแถว 1,550-1,600 จุด และทางสภาพัฒน์ รวมถึงแบงก์ชาติก็ได้ปรับลดประมาณการตัวเลข GDP ลงมาเหลือไม่ถึง 3% แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์เกิดขึ้น แต่ก็ยังมีความหวังอยู่ที่จะมองเป้าดัชนีฯปีนี้ไว้ที่ 1,450 จุด เพราะไทยยังมีภาพดี ๆ รออยู่ อย่างเรื่องของ AEC ก็สามารถที่จะทำให้ช่วยหนุนการเติบโตได้"นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าว
นางภัทธีรา กล่าวต่อว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาสมาคมก็พยายามส่งข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออกไปให้นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งวันนี้ก็เริ่มเห็นชัดว่า เหตุการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ประกอบกับ การที่ตลาดหุ้นและสถาบันการเงินได้เปิดทำการตามปกติในวันนี้ก็มีผลมาก ทำให้เห็นถึงศักยภาพการบริหารของประเทศ ซึ่งช่วยได้มาก เพราะทำให้นักลงทุนต่างชาติยังมั่นใจการลงทุนและมีการซื้อขายหุ้นได้ตามปกติ
"อยากจะบอกนักลงทุนว่าให้ประเมินพื้นฐานที่ยังมีสิ่งดี ๆ ของประเทศ พร้อมยืนยันสามารถทยอยเก็บหุ้นได้ เพราะเป็นโอกาสที่ดี"นางภัทธีรา กล่าว