ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตได้ 10-11% จากปีก่อน โดยช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้เติบโต 9% เนื่องจากทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าวานนี้จะมีเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ แต่เชื่อว่าเหตุการณ์จะไม่ยืดเยื้อ และจะไม่ส่งผลต่อเป้าหมายรายได้ในปีนี้แน่นอน โดยคาดปริมาณการเติมน้ำมันปีนี้จะเติบโต 8.7% จากปีก่อน หลังในครึ่งปีแรกปริมาณเติมน้ำมันเติบโตแล้ว 7.8%
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับผลบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เนื่องจากรับรู้รายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ก็ส่งผลดีต่อต้นทุนสายการบิน และการเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในช่วงปลายปี 58 ก็จะส่งผลทำให้มีการเปิดน่านฟ้ามากขึ้น และน่าจะทำให้ปริมาณการเติมน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
"ภาพรวมธุรกิจทั้งปีเราตั้งป้าเติบโตปีนี้ 10-11% ซึ่งเรามีรายได้อิงกับธุรกิจท่องเที่ยว และสายการบิน ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะไม่ยืดเยื้อ ขณะที่การจองเที่ยวบินของนักท่องเที่ยวก็มีอัตราการจองเข้ามามากพอสมควรในช่วงครึ่งปีหลัง การที่จะยกเลิกเที่ยวบินถือว่าทำได้ยาก"นายประกอบเกียรติ กล่าว
นายประกอบเกียรติ กล่าวว่า บริษัทวางงบลงทุนในช่วงปี 58-61 ไว้ที่ราว 600 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายระบบท่อน้ำมันในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 และใช้ในการขยายหลุมจอดของท่าอากาศยานดอนเมือง
พร้อมกันนี้บริษัทก็อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศเวียดนาม เพื่อหวังเข้าไปเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิคการเติมน้ำมันและขนส่งน้ำมันในสนามบิน ซึ่ง BAFS เป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับ 1 ในเอเชีย อย่างไรก็ตามยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาร่วมกัน ซึ่งไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ขณะที่บริษัทก็เปิดกว้างและมองโอกาสในประเทศอาเซียน ที่จะเข้าไปเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิค