ด้านราคาขายถ่านหินเฉลี่ยในครึ่งปีหลังมองว่าจะอยู่ที่ราว 59 เหรียญสหรัฐ/ตัน ลดลงจากครึ่งปีแรกที่อยู่ระดับเฉลี่ย 60 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้คาดว่าราคาขายถ่านหินเฉลี่ยทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 59 เหรียญสหรัฐ/ตัน ต่ำกว่าปีที่แล้วที่อยู่ระดับเฉลี่ย 65.36 เหรียญสหรัฐ/ตัน
โดยราคาถ่านหินที่ปรับตัวลดลงมาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจากภาวะโอเวอร์ซัพพลาย แต่คาดว่าหลังจากนี้ภาวะจะเริ่มกลับสู่ภาวะที่สมดุลมากขึ้น เนื่องจากราคาถ่านหินที่อยู่ระดับต่ำทำให้ปริมาณการผลิตหายไปจากตลาดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจากในประเทศอินโดนีเซียที่ปริมาณการผลิตลดลงจากปีที่แล้วกว่า 40 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการใช้ยังคงเพิ่มขึ้นราว 3% ต่อปี โดยในปีนี้คาดว่าความต้องการใช้ถ่านหินของโลกจะอยู่ที่ 930 ล้านตัน ขณะที่ปริมาณการผลิตอยู่ที่ราว 935-938 ล้านตัน
ส่วนแผนการนำบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BANPU เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 59 นั้น บริษัทคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ในเร็วๆนี้ โดยได้คัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงินเรียบร้อยแล้ว