ส่วนรายได้ยังคงเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 15% จากปีก่อน ตามยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่คาดว่าจะโต 15% จากครึ่งปีแรกมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรขยายตัวได้แล้ว 12% สูงกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโต 7% เป็นผลจากการเพิ่มกิจกรรมการตลาดอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตไม่น้อยกว่าช่วงครึ่งปีแรก
ทั้งนี้บริษัทจะพยายามรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ไว้ที่ 2.2% เท่าครึ่งปีแรก โดยเป็นการบริหารจัดการหนี้ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบน้อยในเรื่องการผิดชำระหนี้ แม้ลูกค้าจะประสบปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน
"กำไรปีนี้เราน่าจะโตตามเป้าที่ 15% แตะ 2,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกเราก็มีกำไรแล้ว 1,039 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ขยายตัวดีขึ้นที่มีการเติบโตถึง 12% สูงกว่าอุตสาหกรรมที่ 7% ขณะที่ครึ่งปีหลังนี้ก็มองว่าเราจะมีการออกแคมเปญทางการตลาดต่อเนื่อง และยังคงเน้นกิน เที่ยว ช้อปเหมือนเดิม"นายระเฑียร กล่าว
นายระเฑียร กล่าวว่า ปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายจะมีลูกค้าบัตรใหม่ที่ 4 แสนใบ จากสิ้นเดือนก.ค.ที่ทำได้แล้ว 2 แสนใบ โดยจะเน้นหากลุ่มลูกค้าเป็นวัยเริ่มต้นทำงาน และมุ่งกลุ่มเป้าหมายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น รวมไปถึงการส่งเสริมการตลาดให้ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งงบการตลาดไว้ที่ราว 1,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกใช้ไปแล้ว 500 ล้านบาท ในการออกแคมเปญถึง 500 กว่าแคมเปญ และในครึ่งปีหลังจะออกแคมเปญอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอนราว 1 พันล้านบาท ในช่วงเดือน ต.ค. นี้ โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าช่วงที่ผ่านมาที่มีอัตราดอกเบี้ย 6% และคาดว่าทั้งปีต้นทุนเฉลี่ยดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 4.1%