อย่างไรก็ตาม คาดว่าพอร์ตสินเชื่อปีนี้จะติดลบ 5-6% จากตลาดโดยรวมในปีนี้หดตัวลงไปพอสมควร โดยมองสภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง ส่งผลต่อกำลังซื้อภาคครัวเรือน หลังรายได้พิเศษ(OT) ของประชาชนระดับรากหญ้าที่หายไป รวมถึงสินค้าเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งบริษัทฯคาดหวังในไตรมาส 4/58 เศรษฐกิจน่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าทุกไตรมาสที่ผ่านมา จากการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ (ครม.) ที่น่าจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐออกมา และช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน
ขณะที่บริษัทได้เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จากปกติมียอดการปฎิเสธสินเชื่ออยู่ราว 15-20% แต่ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 30% ทั้งนี้ เพื่อรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ไม่ให้เกิน 5% จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 5.3%
นายประพล กล่าวว่า การขยายสาขาปีนี้จะเพิ่มอีก 2-3 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 90 สาขา โดยจะใช้เงินลงทุนต่อแห่ง 3-4 ล้านบาท ขณะที่การขยายสาขาไปยังต่างประเทศ บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ดังกล่าวจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากเดิมไม่ถึง 1% ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมในอาเซียน เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมาก ยกเว้นสิงค์โปร มาเลเซีย และบรูไน โดยมองว่ามีความเป็นไปได้ทั้งการลงทุนเองทั้ง 100% หรือหาพันธมิตรท้องถิ่นเข้าร่วมลงทุน
พร้อมกันนี้ บริษัทก็มองโอกาสเข้าซื้อกิจการธุรกิจเช่าซื้อในช่วงที่ภาวะดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น เนื่องจากบริษัทถือว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้าไปลงทุนได้มากกว่ารายอื่น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E)อยู่ที่ 1 เท่า และมีความสามารถในการกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินได้ถึง 4,000-5,000 ล้านบาท
นายประพล กล่าวว่า ส่วนธุรกิจนาโนไฟแนนซ์คาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ในช่วงไตรมาส 4/58 วงเงินเบื้องต้น 50 ล้านบาท และมีเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่อไม่เกิน 7 เท่าของทุนจดทะเบียนของผู้กู้ เพื่อทดลองตลาดก่อน โดยจะเน้นปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ารายเดิมเป็นหลัก