ก่อนหน้านี้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ได้รับใบรับรองจัดการคุณภาพมาตรฐาน แล้วจำนวน 7 รุ่น โดยหลังจากการขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น เน้นประเทศสหรัฐฯ ยุโรป และซาอุดิอาระเบีย บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศในปี 59 แตะ30% จากปีนี้อยู่ที่ประมาณ 20-25% และตั้งเป้ารายได้ 5 ปี (59-63) เติบโตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 10%
"ปีนี้เรามีการทำเรื่องขอใบ UL เพื่อส่งออกในสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนในส่วนนี้ราว 20-30 ล้านบาท โดยจะเป็นการทยอยขอใบรับรองอีกกว่า 40 รุ่น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบบ้างต่อกำไรของบริษัท แต่เป็นเพียงค่าใช้จ่ายพิเศษเพิ่มเติมเท่านั้น และที่สำคัญหลังจากเราได้รับใบ UL แล้วและสามารถส่งออกในสหรัฐอเมริกาได้ จะทำให้ทั้งกำไร และรายได้ของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า"นายวสันต์ กล่าว
นายวสันต์ กล่าวว่า การมีค่าใช้จ่ายพิเศษทั้งในการขอใบรับรองจัดการคุณภาพมาตรฐาน ของสหรัฐอเมริกา และค่าใช้จ่ายในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 2/58 ลดลง 36.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 6.77 ล้านบาท แต่ในส่วนของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 8.87% มาที่ 135.09 ล้านบาท เป็นผลจากการจัดจำหน่ายให้ลูกค้ารายใหม่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ขณะที่ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตมอเตอร์จาก 60,000 ลูกต่อเดือน เป็น 80,000 ลูกต่อเดือน เพื่อรองรับยอดคำสั่งซื้อมอเตอร์สำหรับปั๊มน้ำเพิ่มเติมจากผู้ผลิตรายใหญ่เฉลี่ยเดือนละอีก 16,000 ลูก โดยในปัจจุบันบริษัทใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยสูงกว่า 95% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ซึ่งหลังจากการเพิ่มกำลังการผลิตแล้ว บริษัทได้เริ่มการส่งสินค้า และจะสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นต้นไป ทำให้ในปีนี้คาดว่าบริษัทจะสามารถสร้างรายได้ได้ราว 520-550 ล้านบาทเติบโตจากปีก่อนกว่า 10% ที่มีรายได้ 489 ล้านบาท