บจ.mai ไตรมาส 2/58 ยอดขายโต 4.04% กำไรขั้นต้นสูงขึ้น,6 เดือนกำไรโตกว่า 40%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 20, 2015 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บจ.ใน mai จำนวน 112 บริษัท (จาก 116 บริษัท ไม่รวมบริษัทที่ยังไม่ส่งงบการเงินและบริษัทที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหรือ NC) นำส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุด 30 มิ.ย.58 พบว่า บจ.มีกำไรสุทธิจำนวน 75 บริษัท คิดเป็น 67% ของบริษัทที่ส่งงบการเงินทั้งหมด โดย บจ. mai มียอดขายรวม 30,748 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.04% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ บจ. มีการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้นจาก 21.43% เป็น 24.21%

อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิรวมลดลงเล็กน้อยจาก 1,592 ล้านบาท เป็น 1,580 ล้านบาท หรือลดลง 0.74% ส่วนหนึ่งเกิดจากในช่วงไตรมาส 2/57 มี บจ.บางรายที่มีการบันทึกกำไรพิเศษ

ในไตรมาส 2/58 แม้ว่า บจ.ใน mai จะต้องเผชิญกับภาวะกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังสามารถรักษาการเติบโตของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นเอาไว้ได้ เนื่องจากมีการส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากจำแนกตามกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่ามี 2 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตของทั้งยอดขายและกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ ได้แก่ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

ทั้งนี้ 5 บริษัทที่มีกำไรสุทธิสูงสุดในไตรมาส 2/58 ได้แก่ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) มีกำไรสุทธิ 741 ล้านบาท บมจ. เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) มีกำไรสุทธิ 321 ล้านบาท บมจ. ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) มีกำไรสุทธิ 141 ล้านบาท บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) มีกำไรสุทธิ 82 ล้านบาท และ บมจ. ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) มีกำไรสุทธิ 67 ล้านบาท" นายประพันธ์กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 58 บจ. ใน mai มียอดขายรวม 61,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.20% อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จาก 21.21% เป็น 24.93% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 26.10% เป็น 3,860 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/58 กำไรสุทธิรวมของ บจ. mai เติบโตถึง 43.52% ทำให้กำไรสุทธิในรอบ 6 เดือนยังคงมีการเติบโต โดยกลุ่มที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 3 อันดับแรก คือกลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม

ปัจจุบันมี บจ. ใน mai 116 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ส.ค.58) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 579.83 จุด ลดลง 17.17 % จากต้นปี มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 351,559 ล้านบาท อัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) อยู่ที่ 57.79 เท่า มูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 3,687 ล้านบาทต่อวัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ