แนวโน้มสัปดาห์หน้าให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/58 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตัว เลขภาคที่อยู่อาศัย ทั้งนี้นักลงทุนคลายความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในเดือนก.ย.ยังเร่งรีบ ทั้งนี้ คาด ว่าอาจจะมีแรงซื้อสลับแรงขาย ส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนสถาบันที่มาจากการเข้าลงทุนกองทุน RMF/ LTF
ให้แนวต้านที่ 880-885 จุด แนวรับให้ไว้ที่ 870-865 จุด เน้นเปิด short และทำกำไรบริเวณแนวรับ
ส่วนราคาทองคำสวนทางตลาดหุ้น ตอนนี้มีแนวโน้มฟื่นตัว และขึ้นไปทะลุแนวต้านสำคัญระดับ 1,150 เหรียญ/ออนซ์ แต่ ยังไม่ถึง 1,170 เหรียญ/ออนซ์ ก็มีแรงขายทำกำไรออกมาก่อน ปัจจัยหลักมาจากความกังวลเศรษฐกิจจีน และเรื่องเกิดข้อพิพาท ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ซึ่งมีการยิงตอบโต้ ท่ามกลางความปั่นป่วนทั้งตลาดหุ้น ตลาดเงิน ทำให้ระยะสั้นราคาทองคำฟื้นตัว
สัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับขึ้น ให้แนวรับที่ระดับ 1,145-1,135 เหรียญ/ออนซ์ แนวต้านที่ 1,170- 1,180 เหรียญ/ ออนซ์ แนะนำเก็งกำไรฝั่ง long นอกจากนี้จากเงินบาทอ่อนค่าทำให้ราคาทองคำในประเทศและ Gold futures ปรับสูงขึ้น
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 885.80 จุด ลดลง 3.77 จุด, -0.42%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 181,658 1,080,539 Total Futures 178,831 1,065,309 SET50 Index 120,605 344,113 Sector Index - - Single Stock 37,810 684,655 Precious Metal 18,628 24,381 -GF10 16,829 21,386 -GF50 1,799 2,995 Curency 1,707 11,815 Energy 81 345 Interest Rate - - Total Options 2,827 15,230 Call 1,221 7,580 Put 1,606 7,650 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -1,555 +8,639 -7,084 Options -532 +169 +363