อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่าการโอนโครงการในครึ่งปีหลังจะไม่เผชิญปัญหาจากการที่ลูกค้ายังไม่พร้อมที่จะโอนและการถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร เนื่องจากบริษัทได้มีการสอบถามลูกค้าอย่างใกล้ชิดและการกู้เงินกับสถาบันการเงินได้มีการให้ลูกค้าทำพรีไฟแนนซ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้มั่นใจว่าลูกค้าจะมีการโอนอย่างแน่นอน ทั้งนี้ในครึ่งปีแรกบริษัททำรายได้ได้แล้ว 1.07 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 41% ของเป้าหมายรายได้ปีนี้
ด้านยอดขายของบริษัทตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 15 ส.ค. 58 บริษัททำได้แล้ว 1.98 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของเป้ายอดขายปีนี้ที่ 2.83 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 7.65 พันล้านบาท และยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 1.22 พันล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะมีการเปิดโครงการอีก 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.57 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 5 โครงการ มูลค่ารวม 1.66 พันล้านบาท โครงการทาวน์เฮาส์ 4 โครงการ มูลค่ารวม 4.54 พันล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 3 ดครงการ มูลค่ารวม 9.54 หมื่นล้านบาท จากแผนทั้งปีบริษัทเปิดโครงการทั้งหมด 24 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.75 หมื่นล้านบาท
จากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเปิดตัวไปแล้วรวมทั้งสิ้น 9 โครงการ มูลค่ารวม 13,560 ล้านบาท เป็นแนวราบ 5 โครงการ และแนวสูง 4 โครงการ
ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่ายอดขายจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย แม้ว่าจะมีปัจจัยลบเข้ามากดดันเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น อย่างเช่น เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่เป็นปัจจัยที่กระทบในระยะสั้นมากกว่าระยะยาว และที่ผ่านมายังไม่มีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นตามมาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจัยที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ทิศทางของเศรษฐกิจยุโรป ประกอบกับการปรับคณะรับมนตรีชุดใหม่ ซึ่งยังคงต้องรอดูนโยบายที่จะออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานที่จะมีการเดินหน้าไปอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้นยังคงมีความสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เป็นสินค้าที่มีราคาสูง เมื่อเศรษฐกิจดีและคนมีเงินมากขึ้นก็เริ่มมีการมองหาซื้อที่อยุ่อาศัย แต่เวลาที่เศรษฐกิจไม่ดีก็อาจจะมีการชะลอการตัดสินใจซื้อลงไปบ้าง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวขึ้น ส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้า ทำให้มีการเก็บเงินมากกว่าการนำเงินออกไปจับจ่ายใช้สอย แม้ว่ากำลังซื้อในปัจจุบันจะดูเหมือนไม่มีการชะลอตัว เนื่องจากอัตราการว่างงานของประชากรในประเทศไทยจากข้อมูลของกรมแรงงานยังอยู่ในระดับที่ดีมากอยู่ที่ 0.7-0.8% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อนที่ 0.6%
ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศต่างมีการทำกิจกรรมการตลาดที่เข้มข้นมากขึ้น และมีการแข่งขันกันสูงขึ้น เพื่อทำให้ยอดขายของแต่ละบริษัทเป็นไปตามเป้าหมาย แม้ว่าตลาดในปัจจุบันจะทำการขายค่อนข้างยาก รวมถึงบริษัทเองก็จะมีการออกแคมเปญในแต่ละโครงการมากขึ้น และทำการตลาดผ่านสื่อที่ไปถึงลูกค้าเป้าหมายโดยตรง อย่างเช่น สื่อออนไลน์ มากขึ้น นอกจากการจัดงานขายต่างๆ โดยในเดือนนี้บริษัทได้มีการจัดงาน AP PACK YOUR BAG" ที่ Terminal 21 ในวันที่ 18-20 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมียอดขายจากงานดังกล่าวอย่างไม่เป็นทางการเกือบ 200 ล้านบาท