ในปี 57 บริษัทมียอดขายเป็นสกุลเงินยูโรเป็นหลักสูงถึง 72% และจากการเจรจากับลูกค้ากลุ่มหลักในยุโรป เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ในไตรมาส 2/58 บริษัทมีรายได้จากการขายในสกุลเงินยูโรเหลือเพียง 23.55% ยอดขายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 27.42% และยอดขายเป็นเงินบาท 49.03% นอกจากนี้ บริษัทก็มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว
แม้สถานการณ์ผันผวนของเศรษฐกิจในยูโรโซน ส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งบริษัทยังหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต อีกทั้งในปัจจุบันบริษัทสามารถเดินหน้ากำลังการผลิตสินค้าได้เต็มกำลังการผลิต และเชื่อว่า หลังจากโรงงานใหม่ที่นิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง แล้วเสร็จ คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 2/59 จะสนับสนุนให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรือประมาณ 1.4 หมื่นตัน ต่อ 1 กะ สนับสนุนให้สามารถรองรับความต้องการซื้อได้เพิ่มขึ้น มีต้นทุนลดลง และเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 58 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 50.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.37% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 42.03 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากบริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 11.04 ล้านบาท ในขณะที่ในงวด 6 เดือนแรกของปี 57 บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 15.56 ล้านบาท
ส่วนรายได้จากการขายในงวดครึ่งปีแรกของปี 58 อยู่ที่ 375.76 ล้านบาท ลดลง 1.49% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 381.46 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากการขายที่ปรับลดลงเป็นผลจากการอ่อนค้าของสกุลเงินยูโร แม้ว่าบริษัทฯ จะขายสินค้าได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น 6.64% โดยบริษัทฯ มีปริมาณขายสินค้าในสกุลเงินยูโรคิดเป็น 43.76% ของปริมาณการขายในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมในงวดครึ่งปีแรกของปี 58 อยู่ที่ 388.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1.69%
“ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าหลักในยุโรป ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง ส่งผลกระทบต่อภาพรวมรายได้จากการขายปรับลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ปริมาณการขายสินค้าสามารถทำได้เพิ่มขึ้น เป็นผลจากปริมาณออเดอร์ของกลุ่มลูกค้าหลักในยุโรปยังคงมีเข้ามาอย่างต่อ เนื่องแม้จะลดปริมาณลงไปบ้าง แต่ส่วนหนึ่งเราได้ออเดอร์จากลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาสนับสนุนแทน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงพยายามรักษาอัตราการเติบโตไห้อยู่ในระดับที่เหมาะสม"นายจิตติพร กล่าว