(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัว เล็งแรงหนุนจีนอัดเงินเข้าระบบ-ปัจจัยในปท.หนุน

ขณะที่ ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก แต่ตลาดฯก็ยังมีปัจจัยลบจาก Fund Flow ต่างชาติยังขายอยู่ และราคาน้ำมันก็ยังปรับตัวลงทำนิวโลว์ในรอบ 6 เดือน พร้อมให้กรอบแกว่งไว้ที่ 1,290-1,325 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(24 ส.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,871.35 จุด ร่วงลง 588.40 จุด(-3.57%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,526.25 จุด ดิ่งลง 179.79 จุด(-3.82%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,893.21 จุด ลดลง 77.68 จุด(-3.94%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 369.02 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 205.78 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 17.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.13 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 33.84 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 16.41 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(24 ส.ค.58) อยู่ที่ 1,301.06 จุด ลดลง 64.55 จุด (-4.73%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,783.45 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ส.ค.58
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(24 ส.ค.58) ปิดที่ 38.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.21 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(24 ส.ค.58)ที่ 5.39 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเช้านี้เปิด 35.65 แข็งค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย มองกรอบวันนี้ 35.50-35.70
• นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์แนวทางการทำงานว่า ทีมเศรษฐกิจชุดนี้จะเดินหน้าในระนาบเดียวกัน และภารกิจไม่ใช่แค่การกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้คนยากจนลำบาก แต่หัวใจสำคัญต้องสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยจะเร่งปฏิรูปในเวลาที่มีอยู่ 1 ปีครึ่งจะรีบทำให้ดีที่สุด
• เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ปี 2558 อัตราการมีงานทำของแรงงานไทยได้ปรับตัวลดลง 0.2% โดยเป็นการลดลงในภาคเกษตร 5.8% ซึ่งเป็นผลจากปัญหาภัยแล้งที่ทำให้กิจกรรมทางเกษตรลดลง
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ ค่าเงินประเทศในภูมิภาคเอเชียปั่นป่วน หลังเผชิญหลากปัจจัยเสี่ยง มาเลย์หนักสุดอ่อนค่าสุดรอบ 17 ปี ไทย 6 ปี แนะจับตาเงินทุนไหลเข้า-ออกเร็ว
• โฆษก ธปท.เผยดัชนีตลาดหุ้นลงแรงเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นเรื่องปกติอ่อนไหวได้ในช่วงระยะสั้นๆ พบเงินบาทเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มสกุลเงินเอเชีย ส่วนปัจจัยใน-นอกประเทศจะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจไทยหรือไม่ให้รอติดตามแถลงนโยบายการเงินในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ด้านนักบริหารเงินคาดบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง
• ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรกธนาคารรัฐสามารถปล่อย สินเชื่อเติบโต 5-6% ถือเป็นอัตราที่สมเหตุสมผลแล้ว ไม่ต้องเบ่งหรือให้ธนาคารรัฐเร่งปล่อยกู้มากกว่านี้ เพราะถ้ามีความต้องการสินเชื่อจริง ลูกค้าขายสินค้าได้ แต่ติดขัดปัญหาบางอย่าง ก็สมควรให้ธนาคารรัฐปล่อยกู้ แต่ถ้าลูกหนี้ขายสินค้าไม่ได้ การปล่อยสินเชื่อไปก็จะยุ่ง

*หุ้นเด่นวันนี้

• KTB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"สะสม"เป้า 21.03 บาท คาดหุ้นแบงก์มี Sentiment เชิงบวกจากประชุมครม.ใหม่นัดแรกวันนี้คาดจะมีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดย KTB ได้ประโยชน์โดยตรง เนื่องจากถือหุ้นโดยกระทรวงการคลัง ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะเป็นธนาคารหลักที่ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายระดับรากหญ้า ซึ่งเป็นลูกค้าสัดส่วนสูงของธนาคาร และ Valuation ค่อนข้างถูก
• กลุ่ม Tourism(ฟินันเซีย ไซรัส)เชื่อเหตุระเบิดที่ราชประสงค์กระทบชั่วคราว จำนวนนักท่องเที่ยวอาจซาไปในระยะ 2-3 เดือนเหมือนทุกวิกฤตในอดีตก่อนฟื้นสู่ภาวะปกติ แต่ลดเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้เหลือ 27.5 ล้านคน +11% Y-Y และคาดกำไรปกติปีนี้ของกลุ่มโต 24% Y-Y ดีขึ้นจากปีก่อนที่โตเพียง 1% Y-Y ERW ถูกกระทบมากที่สุดเพราะ 66% ของรายได้มาจากโรงแรมในกรุงเทพฯ ขณะที่ CENTEL และ MINT รับผลรองลงมา สำหรับ MINT แม้ธุรกิจจะกระจายความเสี่ยงมากสุด แต่ธุรกิจต่างประเทศไม่แกร่งเหมือนอดีต จึงชอบ CENTEL มากสุดและกำไรโตมากสุด เลือกเป็น Top pick ราคาเป้าหมาย 45 บาท
• BBL(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 200 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 160 บาท ซื้อขายที่ P/BV ต่ำเพียง 0.9 เท่า และเชื่อธนาคารไม่ขาดทุน ซึ่งหมายถึง Book Value ที่จะเพิ่มขึ้นได้ในระยะต่อๆ ไป แนวโน้ม 2H58 ประคองตัวไปได้ การด้อยค่าของสินทรัพย์ยังเป็นประเด็นที่กังวลแต่ไม่ถึงกับรุนแรงมาก เนื่องจากการปรับขึ้นของ NPL ช่วง 2Q58 ไม่มาก เพราะธนาคารระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อและเข้าไปดูแลลูกค้าที่เริ่มมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอย่างใกล้ชิด