กองทุนดังกล่าวมีจุดเด่นคือ จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก 3 เดือนเฉพาะผลตอบแทนในอัตราเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุนที่ตราไว้ (10 บาท) ทั้งนี้ เมื่อกองทุนเปิด MSI 18 ครบอายุกองทุน บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด และสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงินหรือกองทุนเปิด MM-GOV เพื่อสนับสนุนการลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่องต่อไป
"กองทุนเปิด MSI 18 เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ และคาดหวังผลตอบแทนในระยะปานกลางถึงระยะยาว โดยสามารถลงทุนได้อย่างน้อยประมาณ 3 ปี สำหรับผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท"นางสาวประภา กล่าว
กองทุนเปิด MSI 18 จะเน้นนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งชาติ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฏหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารต่างประเทศ หรือตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งกองทุนเปิด MSI 18 มีกลยุทธ์การลงทุนเพียงครั้งเดียว และถือทรัพย์สินไว้จนครบอายุของทรัพย์สินนั้น
ตัวอย่างตราสารที่จะลงทุนคือหุ้นกู้ ได้แก่ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 23 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.53 ต่อปี บริษัท เอเซียเสริมกิจลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 23 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.69 ต่อปี บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ลงทุนร้อยละ 23 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.92 ต่อปี บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 23 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.90 ต่อปี และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ลงทุนร้อยละ 8 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.18 ต่อปี โดยกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารอื่นแทนหรือเพิ่มเติมซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ คือ ไม่ต่ำกว่า BBB-
ทั้งนี้ ประมาณการผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนเปิด MSI 18 ร้อยละ 3.22 ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุนร้อยละ 0.22 ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 3 ต่อปี หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป บริษัทจัดการอาจไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามอัตราดังกล่าว