ขณะที่ปัจจัยอื่นๆ ที่เคยประเมินไว้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ได้แก่ การท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม หากไม่มีเหตุระเบิดหรือสถานการณ์ปั่นป่วนในประเทศ การท่องเที่ยวก็จะไม่กระทบมากนัก แต่เชื่อว่าระยะสั้นนักลงทุนสถาบันยังถือเงินสดอยู่
ส่วนทิศทางเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปีนี้ มองสอดคล้องหลายสำนักวิจัยว่าไทยยังต้องเผชิญความผันผวนจากเศรษฐกิจโลก เพราะไทยยังต้องพึ่งพาต่างประเทศ ปัจจัยลบในประเทศ ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจไม่เดินหน้า การเติบโตของเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน ซึ่งการเติบโตของจีดีพีต่ำกว่า 3% ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังไม่น่าเข้าลงทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทจดทะเบียนโดยตัดกลุ่มพลังงานออก ยังมีผลกำไรเติบโต โดยกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ประเมินวันนี้คาดว่าจะเติบโต 15-20% แต่ถ้ารวมกลุ่มพลังงานจะลดลง
นางชวินดา กล่าวว่า การลงทุนตลาดหลักทรัพย์ต่อจากนี้ควรเลือกเป็นราย Sector ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับลงต่อเนื่องส่งผลให้ ค่า P/E ปรับตัวลงเหลือ 13 เท่าในวันนี้ จากเดิม P/E อยู่ที่ 16-17 เท่า ถือว่าเป็นระดับที่น่าเข้าทยอยสะสม แต่ยังต้องระวังความผันผวน
"มอง target 1,410 จุดระหว่างทางยังไม่แน่นอน ยังต้องระมัดระวัง เพราะ downside ยังเปิดอยู่ แต่ราคาดัชนีนี้ นักลงทุนค่อยๆทยอยสะสมได้ เนื่องจากปัจจัยตลาดต่างประเทศส่งผลให้ตลาดผันผวนยังไม่จบและยังไม่ผ่าน ก็ยังมีโอกาสเห็น 1,250 จุดได้" นางชวินดา กล่าว