บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ บมจ.เอทีพี 30(ATP30) ด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสดอิสระ (DCF) เท่ากับ 1.06 บาท เนื่องจากคาดกำไรสุทธิของ ATP30 ที่จะเติบโตในอัตราที่สูงกว่ากลุ่มในระยะ 1-2 ปีนี้หลังรับเงิน IPO ในครั้งนี้ ซึ่งจะเสนอขายจำนวน 160 ล้านหุ้น ราคาจอง 0.95 บาท (ราคาพาร์ 0.25 บาท) จะนำเงินทุนไปชำระหนี้ เสริมสภาพคล่องในกิจการและขยายจำนวนรถเพื่อรองรับการให้บริการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ คาดรายได้ของ ATP30 ขยายตัวในอัตรา 13% CAGR ใน 3 ปีข้างหน้าเติบโตตามการขยายจำนวนรถ แต่คาดอัตรากำไรสุทธิที่พัฒนาดีขึ้นมาก (คาดจาก 3.3% ในปี 57 ไต่ขึ้นเป็น 7% ในปี 59) เพราะ 1)อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น จากการเพิ่มจำนวนรถให้บริการที่เป็นเจ้าของเองด้วยเงินทุน IPO ซึ่งให้อัตรากำไรดีกว่ารถร่วมเท่าตัว ต้นทุนราคาน้ำมันที่ถูกลง โดยราคาน้ำมันเฉลี่ยปัจจุบันลดลงจากปีก่อนไปแล้วราว 10% และการประหยัดต่อขนาดจากต้นทุนการบริหารเป็นค่าใช้จ่ายคงที่
2) การชำระเงินกู้ด้วยเงินเพิ่มทุนลดต้นทุนทางการเงินลง เราคาดว่าหลังการ IPO อัตราหนี้ต่อทุนจะลดลงจาก 4 เท่าเหลือราว 1 เท่า และสัดส่วนดอกเบี้ยจ่ายที่เคยเป็นกว่า 50% ของ EBIT ลดลงเหลือราว 25% เราจึงคาดกำไรสุทธิในปี 58 เติบโตถึง 43% YoY และโตต่อเนื่องในระยะ 2 ปีข้างหน้าในอัตราเฉลี่ย 66% CAGR
บริษัท ATP30 ให้บริการรถรับส่งแก่พนักงานโรงงานของบริษัทต่างๆในนิคมอุตสาหกรรมตะวันออก (Eastern seaboard) เรามองว่าบริษัทมีทิศทางเติบโตไปตามการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 17 นิคมและกำลังทยอยเริ่มดำเนินการอีก 13 นิคม ได้อานิสงค์จากแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนระยะ 7 ปี (58-64) ของ BOI