นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอทีพี 30(ATP30) เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกของ ATP30 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นเดียวกับช่วงการเสนอขายหุ้นไอพีโอ เนื่องจากบริษัทมีแผนขยายธุรกิจที่ส่งเสริมให้เกิดการเติบโตอย่างชัดเจนภายหลังการระดมทุน อาทิ การเพิ่มจำนวนรถรับส่งบุคลากร จำนวน 45 คัน ภายในปี 2560 จากปัจจุบันที่มีจำนวน 136 คัน เพื่อขยายบริการให้ครอบคลุมเขตพื้นที่ภาคตะวันออก พัฒนาศูนย์อบรมและหลักสูตรนักขับ พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับบริหารการเดินรถ ปรับปรุงศูนย์ซ่อมบำรุงพื้นที่ชลบุรีให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำบริการรถรับส่งบุคลากรที่มีมาตรฐานด้านการบริการและความปลอดภัยสูง รวมทั้งจะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าเดิม 3 ราย ซึ่งมีความต้องการเพิ่มจำนวนรถรับส่งบุคลากร รวมประมาณ 10 คัน โดยคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาในช่วงไตรมาส 3/2558 นี้ พร้อมกันนี้ บริษัทได้มีการเจรจากับลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง โดยมีจำนวนความต้องการใช้รถรับส่งบุคลากร รวมอยู่ที่ประมาณ 30 คัน คาดว่าจะเห็นการเซ็นสัญญาภายในปีนี้ และจะเริ่มให้บริการเดินรถในปีหน้า พร้อมสามารถรับรู้รายได้เข้ามาในต้นปี 59 ทันที
“ปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังคงชะลอตัว แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ ATP30 เนื่องจากลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกที่เป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัท ยังคงมีความต้องการใช้รถเพื่อขนส่งบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยในเบื้องต้นบริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2558 ไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้จากการบริการอยู่ที่ 234.85 ล้านบาท"นายปิยะกล่าว
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ATP30 เปิดเผยว่า มั่นใจว่าธุรกิจของ ATP30 จะมีแนวโน้มขยายตัวเป็นอย่างมากภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ โดยนอกจากจะสามารถรองรับความต้องการใช้บริการรถรับส่งพนักงานจากลูกค้าใหม่และกลุ่มลูกค้าเดิมได้มากขึ้นแล้ว บริษัทจะมีความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มสูงขึ้น จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีผ่านแผนการขยายรถขนส่ง รวมไปถึงการมีต้นทุนทางการเงินที่ลดต่ำลง จากการเจรจาขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับลีสซิ่ง จากดอกเบี้ยก่อนเข้าระดมทุนประมาณ 7-8% ซึ่งจะมีผลทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเช่นกัน ซึ่งแผนการขยายธุรกิจในการบริหารต้นทุนของบริษัทจะเริ่มดำเนินการภายในไตรมาส 3-4 ปีนี้ จึงถือได้ว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างเต็มที่
ส่วนนายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า มั่นใจว่า ATP30 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในการซื้อขายวันแรกและในช่วงต่อจากนี้ โดยเป็นหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ด้วยจุดแข็งธุรกิจของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตสูง มีปัจจัยพื้นฐานดี ดังนั้นเชื่อว่า ATP30 จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนทั้งในระยะกลางและยาว ซึ่งถือเป็นโอกาสของนักลงทุนที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรไอพีโอในการเข้าลงทุน เนื่องจากธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมาก
สำหรับบล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของบมจ.เอทีพี 30 (ATP30)ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินราคาเป้าหมายของ ATP30 ไว้ที่ 1.10 บาท (อิง PE 32x จาก PEG 1.45x)โดยคาดกำไรปกติจะเติบโตโดดเด่นในปี 2015-16 เฉลี่ย 80.7% ต่อปี จากการลงทุนรถโดยสารเพิ่มกว่า 41 คัน จากสิ้นปี 2014 ที่ 120 คัน (จำนวนลูกค้า 20 ราย) และการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น
ATP30 เป็นผู้ให้บริการรถรับ-ส่งพนักงานทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก เป็นบริษัทรถรับ-ส่งพนักงานที่ให้ความสำคัญในเรื่องการบริการอย่างมาก ทำให้บริษัทต่างจากคู่แข่งและมีจุดแข็งที่สร้าง Premium ให้ตนเอง บริษัทอยู่ในทำเลที่ดีเพราะตั้งอยู่ในละแวกนิคมอตุสาหกรรมภาคตะวันออกซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มลูกค้าสำคัญ