"แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะโตต่อเนื่อง เพราะลูกค้ายังมีความต้องการสินเชื่อสูง ตลาดยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก และเชื่อมั่นว่าลีซ อิท สามารถตอบโจทย์ความต้องการแหล่งเงินทุนให้ SME ได้และยังคงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับเอสเอ็มอีในภาวะปัจจุบัน"นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ ของ LIT กล่าว
นายสมพล กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อของบริษัทมีรูปแบบที่หลากหลาย และดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ไม่มีค่าบริการอื่นแอบแฝง ตอบโจทย์ลูกค้าเอสเอ็มอีได้ ทำให้พอร์ตลูกค้าเอสเอ็มอีขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามเป้า ซึ่งเห็นได้จากพอร์ตสินเชื่อรวมในช่วงไตรมาส 2/58 โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มียอดปล่อยสินเชื่อ รวมในทุกผลิตภัณฑ์ 2,231.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,073.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 93% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 57 ที่มียอดปล่อยสินเชื่อรวมอยู่ที่ 1,158.25 ล้านบาท
ขณะที่รายได้และกำไรในช่วงไตรมาส 2/58 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากสินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแผนที่วางไว้ ทั้งในส่วนของสินเชื่อซื้อสิทธิเรียกร้อง (Factoring) สินเชื่อโครงการ (Project backup Financing) สินเชื่อเพื่อค้ำประกันของ (Bid Bond) และรายได้จากค่าธรรมเนียมจากการให้วงเงินสินเชื่อ (Front-end Fee) แก่ลูกค้ารายใหม่
"จุดยืนสำคัญอีกประการที่ทำให้ลูกค้าเอสเอ็มอีมาใช้บริการสินเชื่อกับเราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้พอร์ตสินเชื่อลูกค้าของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ คือ ลีซ อิท ยึดหลักการให้บริการสินเชื่ออย่างโปร่งใส และเป็นธรรม ไม่มีค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมใดแอบแฝงในทุกขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อ เราบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส คิดค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจน"นายสมพล กล่าว