สำหรับแนวโน้มรายได้ปีนี้บริษัทฯได้ปรับลดเป้าหมายลงเหลือเติบโต 0-5% จากเป้าหมายเดิมที่ 10-15% เนื่องจากปัจจุบันงานโครงการภาครัฐฯมีการล่าช้าออกไป ส่งผลให้มีช่องว่างของการรับรู้รายได้ เป็นผลให้บริษัทฯต้องปรับลดเป้าหมายรายได้ลง
อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 จะดีกว่าไตรมาส 2/58 และจะดีกว่าไตรมาส 3/57 ที่มีผลขาดทุนอยู่ 116 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการส่งมอบงานให้กับลูกค้าได้ตามแผนที่วางไว้
นายปสันน คาดว่าผลประกอบการในปี 59 จะกลับมาเติบโตได้ดีขึ้น เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog)ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันหลังมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีใหม่ และเริ่มมีการประกาศโครงการใหม่ๆออกมา โดยปัจุบันบริษัทฯยังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท ที่คาดว่าจะได้งานในสัดส่วน 10-15% โดยจะเริ่มทยอยรู้ผลประมูลงานตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ไปถึงต้นปี 59
นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างประมูลงานก่อสร้างโครงการพลังงานน้ำ ที่ประเทศลาว 2 โครงการ กำลังการผลิต 40-60 เมกะวัตต์ มูลค่าราว 2-4 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรู้ผลประมูลงานในช่วงปลายปีนี้ ถึง ต้นปี 59 ในขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินงานก่อสร้าง และ ควบคุมการก่อสร้างโรงแรม ที่ประเทศพม่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปมูลค่าการลงทุนได้ โดยบริษัทฯคาดว่าจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้มาในปี 59
นายปสันน กล่าวต่อว่า บริษัทฯเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 1 โครงการ โครงการ บารานี การ์เด้น มูลค่า 900 ล้านบาท หลังจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯมีการเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 2 โครงการคือ บารานี พาร์ค มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท ขายไปแล้ว 20% โดยคาดว่าจะเริ่มโอนโครงการได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/59 เป็นต้นไป และโครงการ เอสเพน คอนโด ลาซาล มูลค่า 750 ล้านบาท ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 58 พร้อมตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายรอโอน (Backlog) ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท ที่คาดว่าจะทยอยโอนได้ใน 1-2 ปีนี้ โดยปัจจุบันยังมีโครงการอีก 2 โครงการได้แก่ ดิ อิสสระ ลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 2.7 พันล้านบาท ขายไปแล้ว 95 % และโครงการอิซซี่ คอนโด สุขสวัสด์ มูลค่าโครงการ 1.8 พันล้านบาท ขายไปแล้วกว่า 80% คาดจะเริ่มโอนได้ในไตรมาส 4/58 นี้ ซึ่ง 2 โครงการดังกล่าวเป็นการรร่วมทุนกับบริษัท ซี.ไอ.เอ็น.เอสเตท จำกัด ซึ่งบริษัท ถือหุ้น 40% อย่างไรก็ดี ปีนี้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 3% ภายใน 1-2 ปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 5% และเป็น 10% ในอีก 5 ปีข้างหน้า