อีกทั้งในปีนี้ยังได้เปิดศูนย์การค้าใหม่ 4 แห่งในปีนี้ ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต ,เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต , เซ็นทรัลพลาซ่า ระยอง และ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ส่วนสถานการณ์ระเบิดย่านใจกลางกรุงเทพฯเมื่อเดือน ส.ค.ส่งผลกระทบเฉพาะศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ในสัปดาห์แรกที่เกิดเหตุการณ์เท่านั้น และปัจจุบันก็เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
"ปีนี้เรามั่นใจว่ากำไรสุทธิจะมากกว่าปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตในทิศทางเดียวกันกับรายได้ แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะเติบโตเพียง 5% แต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่น ที่มีการจับจ่ายใช้สอยมาก และเชื่อว่าจากการที่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาจะทำให้กำลังซื้อของประชาชนปรับตัวดีขึ้น เราก็จะดีไปด้วย ทั้งค่าเช่า ค่าบริการ ก็จะเติบโตได้ แต่อกำลังซื้อที่ดีขึ้นนั้นจะยังไม่มากนัก"นางสาวนภารัตน์ กล่าว
นางสาวนภารัตน์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปี 59 คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ 15% ตามเป้าหมายทางธุรกิจในระยะเวลา 5 ปี ที่จะมีรายได้เติบโตในอัตราเฉลี่ยปีละ 15% ซึ่งได้รับผลประโยชน์จากการรับรู้รายได้เต็มปีของศูนย์การค้าใหม่ที่เปิดในปีนี้ และบริษัทยังมีแผนจะเปิดศูนย์การค้าใหม่อีก 2 แห่งในปี 59 คือ เซ็นทรัลพลาซ่า นครศรีธรรมราช และ เซ็นทรัลพลาซ่า โคราช นอกจากนี้ การปรับปรุง เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้าและ เซ็นทรัลพลาซ่า บางนา จะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามแผน
ส่วนแผนการลงทุนในปีหน้า บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ระดับ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุนปกติ เพื่อใช้ขยายศูนย์การค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงศูนย์การค้าเดิม จากปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนไปราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนตามปกติ และการลงทุนในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต