"ปีนี้ operating มีกำไร แต่เราจะมีผลกระทบจากบริษัทไฟฟ้าที่เข้าไปลงทุน จะมีมูลค่าขาดทุนปีแรกเข้ามา ยังไม่รู้จะติดลบเท่าไร ซึ่งอาจทำให้ตัวเลขผลประกอบการทั้งปีติดลบได้"นายนิพิฐ กล่าว
ในแง่รายได้รวมในปีนี้น่าจะทำได้สูงกว่าปี 57 ที่มีรายได้ 660 ล้านบาท เนื่องจากครึ่งแรกมีรายได้แล้ว 734 ล้านบาท แต่แนวโน้มครึ่งปีหลังอาจมีรายได้ต่ำกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากการโอนที่ดินลดลงจากครึ่งปีแรกที่โอนไปแล้วกว่า 400 ล้านบาท หลังจากไตรมาส 2/58 บริษัทขายที่ดินแทบไม่ได้เลย ดังนั้น ไตรมาส 3-4/58 นี้จึงมีการโอนที่ดินน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังรายได้จากสาธารณูปโภคจะสูงกว่าครึ่งแรก
ส่วนการขายที่ดินที่จะสรุปได้ในไตรมาส 3-4/58 ก็จะไปโอนในไตรมาส 1-2/59 ซึ่งขณะนี้มีเจรจาลูกค้าอยู่หลายราย โดยมีแปลงขนาดใหญ่ 1 แปลงคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3 นี้ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าญี่ปุ่นและไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม ยาและเวชภัณฑ์ และส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเดิมที่ขยายพื้นที่เพิ่มทั้งในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร และนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งยังมีที่ดินเหลือพอขาย ทำให้ขณะนี้บริษัทชะลอแผนซื้อที่ดินเพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 3 ไว้ก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์
"การขายที่ดินในปีนี้ดีช่วงต้นปี แต่ไตรมาส 2 ขายที่ดินแทบไม่ได้เลย พอไตรมาส 3 มีคุยลูกค้าหลายรายอยู่ ตอนนี้คุยแปลงใหญ่อยู่น่าจะจบ และมีอีกหลายแปลง คาดสรุปได้ในไตรมาส 3 นี้ และจะไปรับรู้รายได้ในต้นปีหน้า ตอนนี้ backlog มีไม่มากเพราะโอนไปในครึ่งแรกเยอะแล้ว"นายนิพิฐ กล่าว
ทั้งนี้ ในงวด 6 เดือนปี 58 บริษัทมีรายได้กว่า 700 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท ขณะที่ปี 57 มีผลขาดทุนสุทธิ 444 ล้านบาท และมีรายได้รวม 660 ล้านบาท