“ธุรกิจในกลุ่มของ SCI ถือว่ามีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน ภายใต้การนำของครอบครัวพฤฒินารากรกับเพื่อนนักธุรกิจชาวฮ่องกง มีทีมผู้บริหารและพนักงานมีความรู้ความสามารถ ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมและการควบคุมคุณภาพการผลิต จากพันธมิตรญี่ปุ่น และมีโรงงานที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในส่วนของภาครัฐ และภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ได้รับงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ธุรกิจของ SCI เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพในการขยายตัวได้อย่างโดดเด่นในอนาคต"นายวิชา กล่าว
นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCI กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโต 10% จาก 2,810.72 ล้านบาท ในปีก่อน โดยแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง จะได้รับประโยชน์จากการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 4G และรับรู้รายได้จากจากการขยายเสาสัญญาณ 3G ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน ลงทุนในโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคมในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการ เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสในการเติบโตของบริษัทในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนลงทุนในโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้า (PDSR) เฟส 2 ในลาว มูลค่าโครงการ 67 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มต้นโครงการได้ประมาณไตรมาส 4/58 และลงทุนในโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคมในเมียนมาร์ โดยร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งมีสัดส่วนลงทุนไม่น้อยกว่า 40% มูลค่าลงทุนทั้งหมด 26 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างโรงงานได้ราวไตรมาส 1/59 ขณะเดียวกัน จะใช้เงินบางส่วนเพื่อลงทุนในโรงงานไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 45 เมกะวัตต์ โดยร่วมทุนกับพันธมิตรในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของมูลค่าลงทุนทั้งหมดราว 3.5-3.7 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มใช้เงินทุนราวต้นปี 59
ผลการดำเนินงานของ SCI ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 55-57) บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเท่ากับ 1,443.67 ล้านบาท 2,175.81 ล้านบาท และ 2,810.72 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตในปี 56 จำนวน 50.71% เมื่อเทียบกับปี 55 และคิดเป็นอัตราการเติบโตในปี 57 จำนวน 29.18% เมื่อเทียบกับปี 56 ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิสำหรับปี 55-57 เท่ากับ 65.29 ล้านบาท 171.29 ล้านบาท และ 328.63 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 58 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น 14.91% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 155.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน