นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในขณะนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเริ่มเห็นสัญญาณการไหลของเม็ดเงินลงทุน (Fund Flow) ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดล่วงหน้า ภายหลังจากนักลงทุนต่างชาติเดินหน้าทยอยปิดสถานะขาย หรือสถานะ Short ที่เคยเปิดไว้ ประกอบกับคาดการณ์ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (FOMC) ในวันที่ 16-17 กันยายนนี้ จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดให้มีเม็ดเงินลงทุน (Fund Flow) ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ได้อีกครั้ง ขณะเดียวกันล่าสุดคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคภายในประเทศให้ฟื้นตัวเร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยกดดันที่อาจเกิดขึ้นจากประมาณการของบริษัทจดทะเบียนที่นักวิเคราะห์ยังคงปรับลดต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มูลค่าราคา (Valuation) ของดัชนีแพงขึ้นโดยปริยาย ขณะที่ภาคการส่งออกของไทยยังคงถูกกดดันจากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามค่าเงิน และปัญหาสินค้าไม่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก อีกทั้งการปรับฐานของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่อาจยังไม่สิ้นสุด หากตัวเลขภาคการผลิตของจีนและสหรัฐฯ ออกมาย่ำแย่อีกครั้งในเดือนนี้
นายณัฐชาต กล่าวว่า สำหรับการคาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนกันยายนนี้ มีทิศทางจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับแนวต้าน 1,330-1,430 จุด โดยแนะนำให้หาจังหวะลงทุนตามกรอบ ทั้งนี้มีหุ้นแนะนำทั้งสิ้น 19 บริษัท ได้แก่ IRPC, IFEC, BLA, TCAP, KKC, PTTGC, VNG, WHA, BANPU, IVL, SYNEX, SUPER, QH, SCB, CEN, MCS, TVO, PTT, EVER